อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 16 วันที่ 18 ต.ค. 58

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 16 วันที่ 18 ต.ค. 58

ที่สวนสาธารณะร่มรื่นแถวชานเมือง ที่นั่นถูกจัดเตรียมเป็นสถานที่ถ่ายรูปแต่งงานอย่างสวยงาม มีรถสปอร์ตหรูเปิดประทุนคันหนึ่งจอดอยู่ เหมือนเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำหรับถ่ายรูปคู่บ่าวสาว

มุกรินมาถึงแล้ว ผู้ช่วยช่างภาพพาเธอไปนั่งในรถสปอร์ตหรูคันนั้น บอกว่าให้รอช่างภาพครู่เดียว เราจะถ่ายช็อตแรกกับรถคันนี้

มุกรินเข้าไปนั่งรอในรถสปอร์ต อึดใจเดียวก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งขึ้นมานั่งที่คนขับ เขาคือคิมหันต์นั่นเอง!



“ผมคือช่างภาพ” คิมหันต์แนะนำตัวเองแล้วสตาร์ตรถทันที อึดใจเดียวรถสปอร์ตหรูก็เคลื่อนออกไปอย่างเร็วจนทีมงานพากันมองตะลึง!

ปรารภอยู่ที่บ้านสวน เขาโทร.เช็กกับทีมงานว่าเจ้าสาวของตนไปถึงหรือยัง ทีมงานบอกว่ามาถึงเมื่อครู่นี้แล้ว

“โอเค...เดี๋ยวจะมีแขกของพี่คนนึงมาขอคุยกับเจ้าสาวนะ เขาชื่อคิมหันต์ พี่อนุญาตให้คุยกันได้สักครึ่งชั่วโมง พวกเราคอยดูให้ดีด้วย ให้คุยอยู่ที่นั่นอย่าไปไหนไกล พี่กำลังจะเข้าไปเดี๋ยวนี้”

“ไม่ทันแล้วค่ะ คือคุณมุกรินมาแล้ว ออกไปแล้วค่ะ... ไปกับช่างภาพ” ปรารภตกใจถามว่าช่างภาพไหน! “ช่างภาพ ที่ชื่อคุณคิมหันต์ แกมาแทนช่างภาพของเรา ตอนนี้แกขับรถออกไปกับเจ้าสาวของพี่แล้วครับ” ทีมงานอีกคนรายงาน

“หา!!” ปรารภร้องลั่น

ooooooo

คิมหันต์ขับรถพามุกรินในชุดเจ้าสาวออกนอกเมือง ต่างคนต่างนั่งนิ่งเงียบ จนมุกรินถามขึ้นว่าจะพาตนไปไหน ขับมาไกลเกินไปแล้ว

คิมหันต์บอกว่าที่สวยๆ ก็ต้องใช้เวลาหน่อย ถามว่าเธอไม่มีธุระอะไรต้องรีบไปไหนไม่ใช่หรือ มุกรินสวนไปว่าเวลาของเขาหมดแล้ว

“ผมรู้...แต่นี่ไม่ใช่เวลาของผม...มันเป็นเวลาของคุณ... เวลาที่คุณต้องตัดสินใจ” มุกรินถามว่าปรารภรู้หรือเปล่าว่าเขามา “รู้...เขาเป็นคนยื่นข้อเสนอให้ผมได้คุยกับคุณ แต่เขาไม่รู้ว่าผมจะพาคุณไปไหน”

“คุณหักหลังเขา!”

“เปล่า...ถึงเมื่อไหร่ คุณโทร.บอกเขาได้เลย” มุกรินบอกว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่เขาจะทำอย่างนี้ “อย่างน้อยผมก็ได้ถ่ายรูปคุณในชุดเจ้าสาวที่นั่น...หรือคุณคิดว่ามีใครถ่ายรูปคุณได้สวยกว่าผมบ้าง” พูดแล้วเขาเร่งรถพุ่งทะยานไปข้างหน้า...

ฝ่ายอรรถคอยโทร.เช็กกับลูกน้องที่สวนร่มรื่นแห่งนั้น เขาถามว่ามีอะไรคืบหน้าไหม ลูกน้องรายงานว่าเขามาถ่ายรูปแต่งงานกัน อรรถโล่งใจว่าคิมหันต์คงไปทำงานตามปกติ แต่พอลูกน้องบอกว่า

“น่าจะไม่ปกติครับ เขาเพิ่งขับรถพาเจ้าสาวหนีออก จากงานครับ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าหนีไปไหน” อรรถถามว่าเจ้าสาวชื่ออะไร พอลูกน้องบอกว่าชื่อมุกริน อรรถสั่งเครียดทันทีว่า

“หาให้เจอว่าพวกเขาไปที่ไหน แล้วรายงานฉันด่วน!”

สาวคนใช้ที่เอาเครื่องดื่มมาให้อรรถ ได้ยินการสนทนานั้นทั้งหมดทุกคำ เมื่อกลับไปที่ห้องโถงเห็นพยาบาลนั่งอ่านหนังสืออยู่ ไม่ไกลนักเห็นพักตรานอนหลับอยู่ สาวใช้มองพักตราบอกว่าสงสารคุณพักตราจัง พยาบาล ถามว่าเรื่องอะไรหรือเพราะพักตราอาการดีขึ้นเยอะแล้ว

“ก็สามีแกน่ะสิ นอกจากจะทิ้งขว้างไม่ดูแลแล้ว ยังไปฉุดเจ้าสาวคนอื่นเขาหนีออกจากบ้านอีก แต่ต้องอย่าให้คุณพักตรารู้เรื่องนี้เด็ดขาด” พยาบาลถามว่าเจ้าสาว ที่ไหนยอมอย่างนั้น “จะใครเสียอีกล่ะ ก็แฟนเก่าคุณคิมหันต์ที่เคยหมั้นกันแล้วถอนหมั้นเสียโด่งดังน่ะแหละ”

“มุกริน” พยาบาลจำได้

“เออ...นั่นแหละ” สาวใช้ยืนยัน แต่ทั้งสองไม่รู้ว่า พักตราไม่ได้หลับ เธอเบิกตากว้างและเกร็งไปทั้งร่าง!

ooooooo

ปรารภไปหาดวงดาวเล่าเรื่องคิมหันต์ฉกมุกรินไปให้ฟัง ดวงดาวสมน้ำหน้าที่ตนเตือนแล้วไม่เชื่อ

“อย่าเพิ่งซ้ำเติมผมได้ไหม บอกมาก่อนว่าคุณพอจะเดาได้หรือเปล่าว่าเขาน่าจะไปที่ไหน”

ดวงดาวบอกไม่รู้ ก็พอดีมือถือปรารภดังขึ้น ฟัง ปลายสายแล้วเขาบอกดวงดาวว่ารู้แล้วว่าพวกเขาไปที่ไหนกัน เพราะทีมงานตนคาดคั้นจากผู้ช่วยคิมหันต์ รู้ว่าพวกเขามุ่งหน้าไปพัทยา ที่ที่เขาเคยบอกรักกัน

“คุณแพ้เขาแล้ว” ดวงดาวยิ้มสมเพช ปรารภบอก ว่ายังเพราะตนจะต้องตามหาพวกเขาให้เจอ “เขาตั้งใจบอกให้คุณตามไปต่างหาก เตรียมตัวอกหักได้เลย คุณไม่ทันเขาจริงๆ คุณปรารภ”

คิมหันต์พามุกรินไปถึงริมทะเลแล้ว เขาลงจากรถไปบอกว่าเรามีเวลาคุยกันสามชั่วโมงกว่าปรารภจะตามมาเจอ ขณะนั้นเองมุกรินก็ได้รับข้อความจากดวงดาวว่า “ฉันอยู่กับปรารภ กำลังตามไป” มุกรินแอบกดหมายเลขลงไปบนโทรศัพท์ของเธอ เพื่อให้ดวงดาวและปรารภได้ยินการพูดกันระหว่างตนกับคิมหันต์ แล้วเดินลงไปหา

คิมหันต์ที่ยืนพิงกระโปรงรถอยู่

คิมหันต์บอกว่าเธอไม่ต้องพูดอะไรก็ได้ตนจะพูดให้เธอฟังเองเพราะนี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายที่ตนจะได้คุยกับเธอ บอกว่าตนพยายามพูดกับเธอดีๆ แต่เธอไม่ยอมฟัง ตนจึงต้องใช้วิธีนี้

ดวงดาวที่นั่งรถมากับปรารภ เห็นเบอร์มือถือมุกรินโชว์เธอบอกปรารภว่ามุกรินโทร.มา แต่ไม่ได้พูดอะไร เธอบอกว่า

“ไม่ได้พูดอะไร มุกคงอยากให้เราฟังเขาคุยอะไรกัน” ดวงดาวอ่านใจมุกรินออก แล้วกดเปิดลำโพงให้ได้ยินด้วยกัน

ทั้งสองเงียบคอยฟังเสียงจากมือถือ ได้ยินเสียงคิมหันต์พูดขึ้นก่อนว่า

“ทันทีที่คุณบอกว่าจะแต่งงานกับนายปรารภ คุณรู้ไหมว่าหัวใจผมแหลกสลายไปแค่ไหน”

“วิธีนี้อีกแล้วนะนายคิมหันต์” ดวงดาวเปรยขึ้นอย่างรู้ทัน แล้วนิ่งฟังเสียงคิมหันต์...

“คุณรู้...ผมเชื่อว่าคุณต้องรู้ แต่คุณจงใจที่จะ

ทำร้ายผมด้วยวิธีแบบนี้...และมันก็ประสบความสำเร็จสมใจคุณ แต่คุณถามตัวเองแน่ๆหรือยังว่า คุณยอมเอาชีวิตที่เหลือของคุณทั้งชีวิตเข้าแลกเพื่อให้ผมหัวใจสลาย มัน คุ้มกันไหม”

“คำถามแค่นี้ ถามที่ไหนก็ได้ ไม่เห็นต้องลักพาตัวมาอย่างนี้เลย” คิมหันต์แย้งว่าเพราะเธอไม่เปิดโอกาสให้ตนได้พูดและไม่ยอมเปิดใจตัวเองให้หัวใจตัวเองเป็นผู้ตัดสิน “ฉันเบื่อแล้วค่ะคิม ฉันเบื่อที่จะถามใจตัวเองแล้ว เพราะทุกครั้งที่ฉันถาม คำตอบมันก็คือคำตอบของหัวใจฉัน ไม่ใช่หัวใจคุณ ฉันไม่เคยรู้เลยว่าจริงๆ แล้วหัวใจของคุณเป็นยังไง”

คิมหันต์บอกให้เธอถาม มุกรินบอกว่าไม่ถามเพราะตนรู้หมดแล้ว คิมหันต์แย้งว่าสิ่งที่เธอรู้เป็นแค่เปลือกอารมณ์ชั่ววูบของตน มุกรินบอกว่าอารมณ์ชั่ววูบของเขาแต่มันทำลายตนทั้งชีวิต!

คิมหันต์ยังคงชี้แจงด้วยเหตุผลของตัวเองที่มุกรินรับไม่ได้ คิมหันต์ใช้ไม้อ่อนหว่านล้อมว่า

“คุณกำลังตัดสินใจผิดนะมุก คุณไม่ได้รักนายปรารภ ถ้าคุณรักเขาจริง คุณต้องแต่งงานกับเขาไปก่อนหน้านี้แล้ว คุณปฏิเสธไหมล่ะ” คิมหันต์จับบ่าทั้งสองของเธอให้มาเผชิญหน้า มุกรินจับมือเขาออกแล้วเดินเลี่ยงไป คิมหันต์เว้าวอนตามหลังว่า “แต่งงานเพราะความแค้นกับแต่งงานเพราะรัก มันให้ผลที่ต่างกันมากนะ เชื่อผมเถอะมุก”

มุกรินหยุดยืนนิ่ง ไม่ตอบ และไม่สบตา

ดวงดาวฟังอยู่กับปรารภ ถึงตอนนี้เธอถามเขาว่าอยากให้ตนใส่หูฟังไหม ปรารภแข็งใจบอกว่าไม่ต้อง และขับรถต่อไปด้วยสีหน้าที่ซีดและเครียดอย่างเห็นได้ชัด

ooooooo

คิมหันต์ยังคงรำพึงถึงอดีตว่า ตนมีรูปถ่ายในที่ที่ตนบอกรักเธอเยอะมาก มุกรินบอกให้เขาลบออกเสียให้หมด

“ผมลบแล้ว แต่ยังไม่หมด...ผมเริ่มต้นลบตั้งแต่วันที่ผมรู้ว่าผมสิ้นหวัง แต่ก็มีรูปที่ลบเท่าไหร่ก็ลบไม่ออก มันคือรูปในใจของผม ในความทรงจำของผม ผมอยากรู้ว่ามันหมดไปจากความทรงจำของคุณด้วยหรือเปล่า”

มุกรินสะกดใจตัวเองไม่ให้หวั่นไหวไปกับเขา เธอเปลี่ยนเรื่องถามว่าเขาจะทำอย่างไรถ้าปรารภมาถึง

“ผมจะขอให้คุณเลือก ไม่ใช่แค่ผมหรอกที่กังวลเรื่องนี้ ว่าที่เจ้าบ่าวของคุณก็กังวลเหมือนกัน ผมจะบอกให้นะ ไม่มีผู้ชายคนไหนหรอก จะมีความสุขกับการแต่งงานกับผู้หญิงที่เขารู้ทั้งรู้ว่าไม่ได้รักเขา”

ปรารภฟังแล้ว นิ่ง เงียบ จนดวงดาวเอ่ยขึ้นว่า “โอกาสคุณน้อยลงเรื่อยๆแล้วนะ” ปรารถยังคงนิ่ง

คิมหันต์บอกมุกรินว่า ปรารภเป็นคนเปิดโอกาสให้ตนคุยกับเธอเพื่อให้เธอเช็กหัวใจตัวเองอีกครั้ง ชมว่า

“ต้องถือว่านายปรารภเป็นสุภาพบุรุษไม่น้อย... ถ้าคุณตัดสินใจเลือกเขา เพราะคุณรักเขาจริง ผมก็ยินดีจะถ่ายรูปคู่ให้คุณ เพราะผมรู้ว่ามุมไหนของคุณสวยที่สุด โดยเฉพาะที่หาดนั้น... ผมอาจจะไม่ได้ใส่ชุดเจ้าบ่าวยืนข้างๆคุณ แต่ผมก็ยังมีโอกาสได้มองคุณในชุดเจ้าสาวเต็มๆตา แม้จะต้องมองผ่านเลนส์กล้อง ก็ยังดีกว่าไม่ได้เห็นเลย...”

มุกรินนิ่ง คิมหันต์บอกว่า หวังว่าเธอจะตัดสินใจได้ก่อนปรารภมาถึง มันไม่ได้ยากอะไรถ้าเธอเปิดใจตัวเอง อย่าทำให้ผู้ชายดีๆอย่างปรารภต้องทุกข์ทรมานไปทั้งชีวิตเลย มุกรินบอกว่าตนเชื่อว่าจะรักเขาได้
ไม่ยาก

“คุณรู้ได้ยังไงว่าความเชื่อกับความเป็นจริงมันจะเหมือนกัน...คุณกล้าถามเขาต่อหน้าไหมล่ะ เมื่อเขามาถึงคุณถามเขาเลย บอกเขาว่าวันนี้คุณยังไม่ได้รักเขาหรอกนะ แต่อยู่ไปสักพักฉันจะรักคุณเอง ทำสัญญากันก็ได้ว่าอีกกี่ปีถึงจะรัก ห้าปี หกปี เจ็ดปี ดูซิว่าเขารอได้ไหม คำตอบของเขาจะทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น...อยู่ที่ว่าคุณจะกล้าพูดกับเขาอย่างนี้ไหม”

มุกรินตัดสินใจเดินกลับไปที่รถ ปิดมือถือของตนทันที ปรารภที่ฟังอยู่อย่างใจจดจ่อถามดวงดาวว่าสายหลุดหรือ

“มุกเขาคงไม่อยากให้เราได้ยินบทสนทนาหลังจากนี้ มากกว่า คุณเสียเธอไปแล้วล่ะ คุณปรารภ”

ooooooo

คิมหันต์ยังพยายามรื้อฟื้นความทรงจำที่เคยรักกัน สัญญาให้กัน กระทั่งบอกเธอว่า ความรักอาจจะไม่ได้จบลงด้วยการแต่งงานหรือการอยู่กินด้วยกันเสมอไป

มุกรินฟังแล้วคิดถึงปรารภ บอกเขาว่า “พี่รภคงจะเกลียดฉันไปอีกนาน ถ้าฉันบอกเลิกการแต่งงานตอนนี้ เขาเตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว เขาวาดฝันถึงอนาคตหลังการแต่งงานไม่น้อย”

“ไม่เท่าผมหรอก” แล้วคิมหันต์ก็รำพึงรำพันถึงอดีตที่หวานชื่นกับเธออีก ถามว่า “คุณเคยเสียดายเวลาบ้างไหม”

“ถ้าคุณจะเริ่มพูดเรื่องเก่าเพื่อรื้อฟื้นความรู้สึกเดิมเมื่อไหร่ ฉันจะเดินหนีคุณไปทันที”

เมื่อมุกรินไม่ฟังการรื้อฟื้นความรู้สึกเดิมอีก คิมหันต์เปลี่ยนเป็นขอจับมือ เห็นมุกรินไม่ปฏิเสธเขากุมมือเธอไว้เบาๆ เป็นสัมผัสที่ทำให้มุกรินรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของเขา เธอรีบดึงมือออกลุกขึ้น คิมหันต์ลุกไปนั่งห่างออกไป หันหน้ามองเธอบอกว่า จะนั่งมองหน้าเธอจนกว่าปรารภจะมาและฟังคำตอบสุดท้ายจากปากเธอ

เวลาเดียวกันนั้น ที่บ้านพักชายป่ากำลังโกลาหลเมื่อพักตราหายไปจากบ้าน บอกพยาบาลพิเศษว่าจะไปเดินเล่นและห้ามใครตาม เธอหนีออกไปเช่ารถตู้หนีไปโดยไม่มีใครรู้ว่าเธอหายไปไหน

เวลาเดียวกันนั้น ปรารภกับดวงดาวก็กำลังบ่ายหน้าไปพัทยา ปรารภถามดวงดาวว่าใกล้ถึงหรือยัง เธอบอกว่าอีก 25 นาที ถามว่า “คุณเตรียมคำพูดประโยคแรกไว้หรือยัง” เขาบอกว่ายังคิดไม่ออก

คิมหันต์ยังทำเวลาเต็มที่ เขารำพึงรำพันถึงเวลาที่ไม่เท่ากันของคนที่มีความสุขกับคนที่มีความทุกข์

“เวลาของคนมีความสุข กับเวลาของคนมีความทุกข์เดินไม่เท่ากัน เวลาของคนมีความรักกับเวลาของคนอกหักก็ไม่เท่ากัน...ผมรู้ว่าเวลาของผมกับคุณตอนนี้...กำลังเดินไม่เท่ากัน”

คิมหันต์รำพึงรำพันเสียจนมุกรินต้องตัดบทว่า

“ฉันก็อยากจะเห็นใจคุณนะคะคิมหันต์ แต่เวลาที่เดินช้าๆของฉัน มันยิ่งทำให้ฉันคิดถึงอะไรต่อมิอะไรได้มากขึ้น ฉันคิดถึงสิ่งที่คุณทำ คิดถึงทุกคนรอบๆ ตัวฉัน ซึ่งรวมถึงพักตราด้วย คุณไม่สามารถตัดพักตราออกไปจากความรับผิดชอบของคุณได้ค่ะคิม...คุณทำอย่างนั้นไม่ได้”

ทั้งสองสบตากันนิ่งอยู่อย่างนั้น ในสายตาของทั้งคู่ต่างมีความเข้าใจกันและกัน แต่มุกรินก็ตัดสินใจอย่างเข้มแข็งเสนอว่า

“เรานั่งนิ่งๆให้เวลาของเราหมดไปภายในวันนี้เถอะค่ะ”

ooooooo

อรรถร้อนใจมากที่พักตราหายไปอย่างไร้ร่องรอย เขาโทร.หาชุมสายถามว่าตอนนี้คิมหันต์อยู่กับเขาหรือเปล่า

“เขาอยู่กับท่านที่เขาใหญ่ไม่ใช่เหรอครับ เขายังบอกผมเลยว่าอากาศดี คุณพักตราก็อาการดีขึ้นมากแล้วด้วย”

“เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ ผมขอล่ะนะ พูดความจริงกับผมได้ไหม ผมไม่มีเวลามากนัก”

“ได้ครับ ผมยอมรับว่า ผมช่วยให้มันได้มีโอกาสเป็นคนถ่ายรูปมุกริน แต่มันไปถ่ายกันที่ไหน อันนี้ผมไม่ทราบจริงๆ” อรรถถามว่าแล้วพอจะติดต่อเขาได้ไหม “ไม่แน่ใจครับ ไม่ทราบว่า ท่านมีอะไรร้อนใจเหรอครับ”

“พักตราหายตัวไป มีคนเห็นว่าเธอจ้างเหมารถตู้ แต่ไม่รู้ว่าไปไหน ที่สำคัญเธอหยิบเอาปืนของผมไปด้วย...จะให้ผมสบายใจได้ยังไง” อรรถร้อนใจจนงุ่นง่าน

เวลาเดียวกัน พักตรานั่งอยู่ในรถตู้ มือหนึ่งเธอซุกอยู่ในกระเป๋าลูบคลำปืนกระบอกกะทัดรัดไปมา อีก

มือถือกล้องถ่ายรูปขนาดเล็กของคิมหันต์ที่มีรูปภาพคู่คิมหันต์กับมุกรินถ่ายที่ชายหาด ซึ่งเป็นการบอกพิกัดที่เธอกำลังมุ่งไป

ปรารภกับดวงดาวมาถึงแล้ว ทั้งสองเห็นรถสปอร์ตเปิดประทุนหรูจอดอยู่ ปรารภบอกว่า

“รถคันนี้ผมตั้งใจจะใช้เป็นองค์ประกอบของภาพคู่ระหว่างเรา”

ทั้งสองช่วยกันมองหามุกรินไปรอบๆที่ทุ่งโล่งใกล้ชายหาด คิมหันต์ยังพยายามหว่านล้อมมุกริน

“ไม่ว่าวันนี้คุณจะตัดสินใจยังไง...ผมก็จะไม่เสียใจ เพราะผมถือว่า ผมได้พยายามอย่างที่สุดแล้ว เท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทุ่มเทให้กับผู้หญิงได้” พอมุกรินจะพูดอะไร เขาขอร้องว่า “อย่าเพิ่งขัดผมเลย ขอให้ผมได้พูดเป็นครั้งสุดท้ายเถอะนะ...”

มุกรินนิ่งเงียบรอฟังเขาพูด...

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 16 วันที่ 18 ต.ค. 58

ละครรอยรักแรงแค้น บทประพันธ์โดย ชลาลัย
ละครรอยรักแรงแค้น บทโทรทัศน์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น กำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น ผลิตโดย บริษัท สามัญการละคร จำกัด
ละครรอยรักแรงแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น.
ติดตามชม ละครรอยรักแรงแค้น ได้ทางทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ