อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 15 วันที่ 10 ต.ค. 58

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 15 วันที่ 10 ต.ค. 58

ตั้งแต่แต่งงานกัน ธงไทยกับตะวันช่วยกันตกแต่งและปรับปรุงบ้านเก่าของแม่เรียมให้กลายเป็นรังรัก ทุกวันเธอจะรอเขากลับจากหาของสดจากทะเลมาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหารแต่เช้านี้ธงไทยชวนตะวันลงเรือไปตกปลาด้วยกัน ตกอยู่นานสองนานได้ปลามาแค่ตัวเดียว เธอเริ่มหงุดหงิด ปลาตัวเดียวจะพอกินได้อย่างไร เขาบอกอย่างใจเย็นว่ามีแค่นี้ แบ่งกันกินก็ได้

“แล้วพรุ่งนี้ล่ะคะ”

“พรุ่งนี้ก็ค่อยหาใหม่ ตะวันอย่าเพิ่งไปกังวลถึงวันพรุ่งนี้เลย ตะวันคิดแค่ว่าตอนนี้ เวลานี้เราโชคดีที่ได้อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว” คำปลอบโยนของธงไทยทำให้ตะวันรู้สึกปลอดโปร่งคลายกังวล ชีวิตที่นี่ไม่ต้องคิดอะไรมาก ทำทุกอย่างไปวันต่อวัน มีความสุขไปวันต่อวันก็พอแล้ว...



ฝ่ายจ๊ะจ๋ามุ่งมั่นจะแก้แค้นตะวันให้ได้ พยายามล้วงความลับจากไผ่เพื่อจะเอาไปบอกคีริน เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธออยู่ไหน จ๊ะจ๋ามั่นใจการที่ตาท้วมหายไปต้องเกี่ยวข้องกับตะวันแน่นอน

“พ่อแกไปบ้านญาติ ไม่เกี่ยวกันหรอก”

จ๊ะจ๋าไม่ยอมแพ้กล่อมจนไผ่ยอมบอกว่าตาท้วมมีสถานที่อยู่แห่งหนึ่งซึ่งปลอดภัยสำหรับหลบภัย และคิดว่าพ่อน่าจะพาตะวันกับธงไทยไปที่นั่น...

ในเวลาไล่เลี่ยกัน รันลงมาจากห้องนอนเห็นคีรินกำลังจะไปทำงาน รีบยื่นเงินให้ เธอมองเงินในมือน้องสาวแปลกใจว่าเงินอะไร รันเอากระเป๋าใบนั้นไปขายเพื่อเอาเงินมาใช้คืน ส่วนที่เหลือจะค่อยๆทยอยจ่ายให้ คีรินล้วงเงินในกระเป๋าตัวเองรวมกับเงินที่น้องเพิ่งใช้คืนส่งกลับให้รัน

“ฝากหน่อย พี่รู้ว่ารันรับผิดชอบมันได้ เอาไว้รักษาแม่นะ ถ้าโชคดีจะเอาเงินก้อนใหญ่กลับมาให้”

“พูดแปลกๆ ไม่ชอบเลย ดูเป็นลางชอบกล”

คีรินขอให้น้องรับปากว่าจะดูแลแม่ดีๆ เธอสัญญาจะดูแลท่านไม่ให้ขาดตกบกพร่อง คีรินยิ้มให้อย่างอ่อนโยน รันถึงกับออกปากไม่ได้เห็นพี่สาวยิ้มแบบนี้มานานแล้ว อยากให้เราสองพี่น้องกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน แล้วขอคำมั่นว่าถ้าพี่กลับมาเราจะเริ่มต้นกันใหม่ เธออดหวั่นใจไม่ได้ ไม่รู้จะได้กลับมาหรือเปล่า...

เปลวทนต่อไปไม่ไหว ตัดสินใจเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเดินทางเตรียมจะหนี แต่ถูกทรงพลจับได้เสียก่อน เขาตัดพ้อจะทิ้งกันไปจริงๆหรือ ถ้าเป็นเมื่อก่อน หากเขาคร่ำครวญแบบนี้ เธอคงใจอ่อนเพราะความเวทนา แต่วันนี้เธอตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะไปจากเขาให้ได้ เขาเห็นเธอไม่เปลี่ยนใจด่าลั่นว่าเนรคุณ

“ฉันคิดว่าฉันกับลูกชดใช้ให้ท่านไปหมดแล้ว วันนี้ยัยปรางค์คงจะมีความสุขดีแล้ว ฉันคงต้องขอชีวิตฉันคืนบ้างแล้วค่ะท่าน”

“แล้วฉันล่ะ ทุกคนมีความสุขดีแล้วคิดจะทิ้งฉันเหรอ” ทรงพลเห็นเปลวไม่สนใจ ก้าวเท้าจะไปก็โวยลั่น “กล้าไปเหรอ ก็ลองไปดูสิ เธอตายแน่เปลว ต้องตายอย่างหมาข้างถนนหรือไม่ก็ต้องกลับไปขายตัว คอยดู”

เธอไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น พร้อมจะเจอทุกอย่าง ขอแค่ไปให้พ้นจากที่นี่ ทรงพลตวาดลั่นหากเธอไป เขาจะตามล่าเธอไปทุกแห่ง เปลวหมดความอดทน มองทรงพลด้วยสายตาแข็งกร้าว ท้าทายว่าคนที่ตกอยู่ในสภาพอย่างเขาจะทำอะไรเธอได้ แม้แต่ช่วยเหลือตัวเองยังทำไม่ได้เลย อย่ามาขู่ให้ยาก ทรงพลโกรธมาก ขู่จะฉีกเธอเป็นชิ้นๆ ถ้ากล้าออกไปจากที่นี่ เปลวเดินเข้ามาพูดใส่หน้า

“ก่อนจะฉีกเนื้อฉัน ลุกขึ้นมาให้ได้ก่อนเถอะไอ้เฒ่า เจ้าอารมณ์” พูดจบเปลวหันหลังจะไป ทรงพลคว้ามือไว้ ห้ามเธอไปไหนทั้งสิ้น เปลวหันกลับไปมอง ต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นเขาค่อยๆลุกขึ้นยืน แล้วต่อยท้องน้อยเธอจุกตัวงอ ก่อนจะเตะซ้ำสลบเหมือด...

เปลวหมดสติไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ตื่นขึ้นอีกทีพบว่าตัวเองนอนคว่ำอยู่ที่พื้น มือถูกมัดไพล่หลัง พยายามจะโงหัวขึ้นมอง แต่ปวดหัวแทบจะระเบิด ทรงพลเดินมานั่งข้างๆ เธอยังสงสัยไม่หายเขาเดินได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเฉลยว่าไม่เคยเป็นอะไร เดินได้มาตลอด แต่ที่ต้องทำตัวเป็นคนพิการเพราะกลัวปรางค์ทองกับเธอจะไปจากเขา

“ท่านหลอกพวกเรา ท่านทำแบบนี้ได้ยังไง ท่านกักขังฉันไว้เกือบ 20 ปีด้วยคำหลอกลวง ท่านไม่ใช่คน”

ทรงพลบันดาลโทสะตบเปลวหน้าหัน “เพราะเธอมันไม่รู้จักบุญคุณไง จะมาหาว่าฉันเจ้าเล่ห์ไม่ได้นะ เปลว...ฉันเมตตาเธอมาตลอด วางเธอไว้บนฟ้าบนสวรรค์ ให้เธอทุกอย่างแล้วทำไม...”

เธอไม่เคยรู้สึกว่าได้ขึ้นสวรรค์ ทรงพลฉุนขาดในเมื่อเธอเลือกเอง เธอก็จะได้ลิ้มรสของการตกนรกทั้งเป็น

ooooooo

หลังจากรู้ที่ซ่อนตัวของตะวันกับธงไทย คีริน แฝงตัวมากับเรือของกลอยกับพ่อ กระทั่งถึงหมู่บ้าน ชาวประมงซึ่งเป็นสถานที่เป้าหมาย เธอหาที่เหมาะๆซุ่มรอการปรากฏตัวของตะวัน

ธงไทย เรียมและตะวันเดินมาส่งตาท้วมซึ่งจะเดินทางกลับไร่นวลตะวันที่ท่าน้ำในหมู่บ้าน ธงไทยขอบคุณเขาสำหรับทุกอย่าง ตาท้วมยินดีทำให้ด้วยความเต็มใจ

“ที่คุณประวัติพ่อคุณไทยกรุณาผมกับไอ้ไผ่ มันมากกว่านี้เป็นร้อยๆเท่า...แม่เรียมฉันฝากคุณไทยกับหนูตะวันด้วยนะ” ตาท้วมว่าแล้วขยับจะไป ตะวันร้องเรียกไว้ ขอบคุณเขาเช่นกันที่ไม่โกรธไม่เกลียดเธอ

“ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ตะวันที่ผมรู้จักเป็นคนดี จำไว้ว่าคุณคือตะวัน คุณต้องเป็นตะวันเท่านั้น”

“ค่ะ หนูคือตะวัน” พูดจบตะวันโผกอดตาท้วม โดยไม่ล่วงรู้ว่านี่จะเป็นการกอดเขาครั้งสุดท้าย

ooooooo

คีรินเห็นตะวันปรากฏตัวก็คว้าปืนยิง ตาท้วมเห็นเสียก่อน โดดเอาตัวขวางทางกระสุนโดนเข้าเต็มๆ ร่วงตกน้ำ ชาวบ้านได้ยินเสียงปืนพากันตะโกน โหวกเหวก มือปืนสาวเห็นท่าไม่ดีวิ่งหนี ตะวันจะตาม แต่ธงไทยคว้าแขนไว้ขอร้องอย่าไป เธอสะบัดมือเขาหลุดแล้วไล่กวดคีริน ธงไทยจะวิ่งตามแต่เรียมร้องเรียกเอาไว้

“คุณไทย มาดูตาท้วมก่อนเร็ว”

ตะวันวิ่งผ่านบ้านของชาวบ้านเห็นปืนยาวแขวนไว้ที่ฝาผนัง หยิบติดมือไปด้วย พอเห็นหลังคีรินไวๆไล่ยิงไม่ยั้ง เสียงปืนยิงต่อสู้กันดังสนั่นหวั่นไหว คีรินสู้ไม่ได้โดดลงเรือของชาวบ้านที่จอดอยู่แถวนั้นแล้วขับหนี ตะวันกระโจนลงเรืออีกลำหนึ่งขับตาม พร้อมกับสาดกระสุนไล่หลัง คีรินเสียทีถูกคมกระสุนร่วงตกจากเรือ เหมือนลางร้ายสื่อถึงกัน แม่ของคีรินกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว จู่ๆชามตกพื้นแตกกระจาย เธอใจหายวาบ รู้สึกสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก รันเห็นสีหน้าท่านก็พอจะเดาออกว่าเป็นกังวลเรื่องของคีริน

“ไม่เอาน่าแม่ ไม่มีอะไรหรอก” คำปลอบใจของรัน ไม่ได้ทำให้แม่รู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย...

มือปืนสาวตะเกียกตะกายเข้าฝั่งอย่างหมดสภาพ เนื่องจากบาดเจ็บหนักจึงไม่สามารถจะหนีต่อไปได้ เธอรู้ได้ถึงความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามา อึดใจตะวันขับเรือมาจอดเทียบแล้วลงมานั่งข้างๆ ตัดพ้อต่อว่าว่าทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย ตนอุตส่าห์หนีมาถึงนี่แล้ว ทำไมไม่ปล่อยตนไป

“พี่ต้องทำ...ถ้าไม่ทำ...มันจะ...ฆ่าแม่กับรัน”

“ใคร? ตะวันจะไปตามล่ามัน” คาดคั้นไปก็ไร้ประโยชน์ คีรินทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจเสียก่อน

ธงไทยมาทันเห็น อดสะเทือนใจไม่ได้ ตะวันแค้นใจมาก ในเมื่อพวกมันไม่เลิกจองเวร เธอก็จะตามล่าพวกมันให้ถึงที่สุด จากนั้นก็กลับขึ้นเรือ เขาพยายามจะคว้าตัวไว้ไม่ให้ไป แต่คว้าได้เพียงสร้อยมุกที่เธอสวมอยู่ จึงทำได้แค่มองตามเรือที่ตะวันขับออกไปด้วยความเสียใจ

ooooooo

ที่ห้องนอนของเปลว ทรงพลเห็นเปลวที่มีบาดแผลตามเนื้อตัวและใบหน้า ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น รีบเดินมานั่งข้างเตียงหยิบชามข้าวต้มจะป้อนให้ เธอได้แต่มองหวาดๆ ไม่สามารถจะพูดหรือขยับตัวได้เพราะไร้เรี่ยวแรง

“กินซะหน่อยนะเปลว จะได้มีแรง” ทรงพลว่าแล้ว ตักข้าวต้มป้อนให้เปลวเจ็บหนักกลืนข้าวไม่ลง สำลักอาหารกระเด็นใส่หน้าคนป้อน เขาโมโหมากคิดว่าเธอแกล้ง ใช้นิ้วกดที่เส้นเลือดใหญ่ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่ตะวันใช้จัดการกับเหยื่อของตัวเอง เปลวไม่มีแรงดิ้นหนี เริ่มหน้ามืดจะหมดสติ พลันมีเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น ทรงพลถึงกับชะงักสงสัยว่าใครมาหา หรือจะเป็นปรางค์ทอง

ครู่ต่อมาทรงพลซึ่งยังคงแสร้งเป็นคนพิการนั่งอยู่ในรถเข็นบอกกับธงไทยว่าลูกของเขาไม่ได้มาที่นี่ ไม่รู้เหมือนกันว่าหายไปไหน ธงไทยถือโอกาสแจ้งข่าวดีให้เขาทราบว่าตนกับตะวันแต่งงานกันแล้ว

“ฉันดีใจด้วยนะ งั้นเราเป็นครอบครัวกันแล้วสินะ”

“ขอบคุณครับ แล้วคุณแม่ล่ะครับ ผมอยากสอบถามคุณแม่เรื่องตะวัน เผื่อท่านจะทราบว่าตะวันอยู่ไหน”

ทรงพลแต่งเรื่องว่าเปลวพักผ่อนอยู่ ไว้พรุ่งนี้ท่านจะถามให้ ธงไทยร้อนใจอยากเจอตะวันเร็วๆ ชะเง้อคอยาวไปทางห้องนอนของเปลว ทรงพลหงุดหงิดไม่พอใจคิดจะจัดการเขาให้รู้แล้วรู้รอด

“เธอร้อนใจมากสินะพ่อหนุ่ม เอางี้แล้วกัน เธอไปเรียกเปลวเขาที่ห้อง จะได้ถามไถ่กันให้รู้เรื่อง ฉันเห็นใจ คนเป็นผัวเมียกันก็อย่างนี้ ห้องข้างในนั่นแหละ” ทรงพลชี้มือประกอบคำพูด ธงไทยลุกขึ้นเดินไปที่ห้องนั้น ทรงพลค่อยๆล้วงปืนที่ซ่อนอยู่ในรถเข็นออกมาแต่ต้องรีบเก็บคืนที่เดิมเมื่อชายหนุ่มเกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน

“ผมไม่รบกวนดีกว่าครับ ถ้าตะวันอยากเจอผม เธอคงไม่หายไปแบบนี้ ถึงคุณแม่จะทราบว่าตะวันอยู่ที่ไหน แต่ถ้าเธอไม่อยากเจอ มันก็ไม่มีประโยชน์” พูดจบชายหนุ่มขอตัวกลับก่อน ทรงพลโล่งใจที่ไม่ต้องฆ่าเขา...

ขณะที่ธงไทยรอดจากความตายมาได้หวุดหวิด แต่เฮียฮุยไม่โชคดีแบบนั้น ตะวันสืบทราบว่าเขาเป็นคนจ่ายงานนี้ให้คีรินจึงตามมาถึงบ้าน เอาปืนจ่อหัวคาดคั้นให้บอกว่าใครเป็นคนจ้างวานให้ฆ่าเธอ เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ผู้จ้างวานติดต่อเขาทางมือถือ แล้วเปิดไลน์ที่มีข้อความจากบุคคลปริศนาที่ใช้ชื่อว่า A ให้ดู

“คนนี้เหรอ”

“ใช่...อย่าทำอะไรฉันนะ ฉันมีเงินสดเก็บไว้เยอะ จะเอาเท่าไหร่ก็เอาไปเลย แต่ปล่อยฉันไป”

ตะวันแค้นจัดเกินกว่าจะปล่อยให้เฮียฮุยลอยนวล ลั่นกระสุนใส่ตายคาที่แล้วเก็บมือถือของเขาไปด้วย...

ทางด้านธงไทยหมดทางจะตามหาตะวัน นึกถึงวิวขึ้นมาได้ จึงแวะไปหาที่ร้านจำหน่ายและให้เช่าชุดวิวาห์ของเธอ ทันทีที่เจอหน้าเพื่อนรัก เขาโผกอดไว้แน่นอย่างต้องการที่พึ่ง เจ๊แน๊ตต้องลากตัวชีสเค้กออกมา ปล่อยให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง ธงไทยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้วิวฟัง และขอโทษเธอด้วยที่พูดจาไม่ดีตอนที่เจอกันครั้งสุดท้าย

“อย่าคิดมากเลย วิวไม่เคยโกรธไทยอยู่แล้ว...แล้วไทยเอายังไงต่อ”

ธงไทยส่ายหน้าไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี วิวอยากรู้ว่าเขาวิ่งตามตะวันแบบนี้เหนื่อยบ้างไหม และที่สำคัญเขากำลังวิ่งตามคนที่ไม่ใช่ตะวันคนเดิมอีกแล้ว คนชื่อตะวันไม่อยู่แล้ว

“ไทยรักเธอมากนะ รัก...ไม่ว่าเธอจะเป็นใครหรือเป็นอะไร”

ooooooo

ที่บ้านของวัฒนา นันทาเห็นลูกชายเอาแต่นั่งซึมไม่ยอมทำงานทำการถึงกับปรี๊ดแตก โวยวายลั่นจะไปอาลัยอาวรณ์ผู้หญิงคนนั้นให้ได้อะไรขึ้นมา ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไปถึงจะถูกต้อง

“ผมกำลังเดินหน้าของผมอยู่นี่ไงครับ”

“เดินหน้าหรือถอยหลังกันแน่” นันทาโมโหสุดขีด ทนงศักดิ์ต้องเตือนให้เธอใจเย็นๆก่อน

อีกมุมหนึ่งบนต้นไม้ใกล้กำแพงบ้าน ตะวันจ้องทั้งสามคนเขม็ง แล้วหยิบมือถือของเฮียฮุยขึ้นมาส่งข้อความไปหาผู้จ้างวานที่ใช้ชื่อว่า A “งานเสร็จแล้ว เหยื่อตายสนิท” จากนั้นก็มองดูความเคลื่อนไหวของคนในบ้าน สักพักมีข้อความส่งกลับมา “โกหก ฉันรู้ว่ามันยังไม่ตาย”

ตะวันมองเข้าไปในบ้าน เห็นนันทวัฒน์เถียงกับนันทาหน้าดำคร่ำเคร่ง นั่นก็เท่ากับว่าคนกลุ่มนี้ไม่ใช่เป็นผู้จ้างวาน เธอกวาดสายตาไปยังสนามหญ้าหน้าบ้าน เห็นกันเกราประคองนันทนาไปยังทางเข้าตึก แสดงว่าคู่นี้ก็ไม่ใช่ผู้จ้างวานเช่นกัน เธอประหลาดใจมากที่คนบ้านนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ปีนลงจากต้นไม้ มองกลับไปยังตัวบ้านด้วยความข้องใจ แล้วเดินผ่าน รปภ.ที่นอนสลบเหมือดจากฝีมือเธอออกไป โดยไม่ล่วงรู้เลยว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดก็คือทรงพลผู้มีพระคุณของเธอเองซึ่งกำมือถือไว้แน่นด้วยความแค้น

“ไอ้ฮุย แกกล้าโกหกฉันเหรอ”...

ในขณะที่แม่ของคีรินลูบคลำข้าวของของลูกสาวคนโตด้วยความคิดถึง รันกลับเข้าบ้านพร้อมกับชุดรับปริญญาในมือ เห็นแม่ยืนน้ำตาซึมอยู่ในห้องของคีรินก็ร้องทัก ท่านรีบปาดน้ำตาทิ้ง ถามว่างานเลิกแล้วหรือ เธอเสียดายแม่น่าจะไปด้วยอยากให้ท่านเห็น ท่านตัดพ้อต่อโชคชะตาตัวเองถึงไปก็มองไม่เห็นอยู่ดี รันโผกอดแม่ไว้น้ำตาร่วงไปด้วย แม่เอามือลูบชุดรับปริญญาของรัน พร้อมกับบ่นว่าอยากมองเห็น

“สักวันแม่ต้องได้เห็นจ้ะ ฉันจะตั้งใจทำงานหาเงินมารักษาแม่ให้ได้เลย” รันสีหน้ามุ่งมั่น...

ธงไทยใช้เวลาปรับทุกข์กับวิวจนมืดค่ำ เจ๊แน๊ต อยากให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันให้นานที่สุด จึงชวนชีสเค้กกลับ แต่ฝ่ายหลังอิดออดไม่อยากไป เธอก็เลยต้องดึงตัวออกจากร้าน ธงไทยนึกถึงวันเก่าๆที่เคยมีกับวิว ช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข อดขอบคุณเธอไม่ได้ที่คอยเป็นกำลังใจให้เสมอไม่ว่าเขาจะมีปัญหาอะไร

“ไทยมาที่นี่ได้ตลอดเลยนะ วิวยินดี ไทยอยู่ที่นี่จนกว่าจะสบายใจหรือจะอยู่ตลอดไปก็ได้นะ” วิวรวบรวมความกล้าเอื้อมมือมาจับมือธงไทยไว้เพื่อสื่อความในใจ ตะวันแอบมองมาจากมุมมืดนอกร้าน เห็นทั้งคู่ถนัดตาเพราะภายในร้านค่อนข้างสว่าง

ธงไทยรู้ดีว่าวิวคิดอย่างไรกับตัวเองแต่ไม่สามารถเปิดรับความรู้สึกของเธอได้ เพราะเขามีตะวันอยู่เต็มหัวใจ อ้างว่าดึกแล้วขอตัวกลับก่อน รบกวนเธอมาทั้งวันแล้ว เธอจะได้กลับไปพักผ่อน ส่วนเขาจะกลับไร่นวลตะวัน วิวใช้ความพยายามเฮือกสุดท้าย เผยความในใจให้เขารู้อย่างไม่มีปิดบัง

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 15 วันที่ 10 ต.ค. 58

ละครเพลิงตะวัน แนว โรแมนติก-ดราม่า
ละครเพลิงตะวัน บทประพันธ์โดย น้ำผึ้งเดือน 8
ละครเพลิงตะวัน บทโทรทัศน์โดย ดรีมทีม
ละครเพลิงตะวัน กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละครเพลิงตะวัน ผลิตโดย บริษัท ดูมันดี จำกัด
ละครเพลิงตะวันออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเพลิงตะวันได้ทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ