อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 2 วันที่ 28 ส.ค. 58

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 2 วันที่ 28 ส.ค. 58

หลังจากใช้เมกอัพกลบร่องรอยโดนซ้อมเรียบร้อย ชัยพาเปลวมาที่หน้าห้องพักแขกภายในซ่อง เธอกลัวตัวสั่นที่ต้องมารับแขก ชัยไม่พอใจผลักหลังเกือบหน้าทิ่ม

“เข้าไปสิ อ้อยส้อยอยู่ได้ เดี๋ยวก็โดนอีกหรอก”

แม่เล้าพาปรางค์ทองเข้ามาพอดี เอ็ดชัยจะดุอะไรนักหนา แล้วไล่ไปให้พ้นหน้า เขาไม่วายหันไปทำหน้ายักษ์ใส่เด็กน้อยให้ตกใจ จนแกต้องวิ่งไปหลบหลังแม่เล้า



“ไอ้บ้าเอ๊ย แม้แต่เด็กก็ไม่เว้น กินหวานมากไปหรือเปล่า...เปลวทำใจเถอะ รีบๆทำงานให้เสร็จจะได้ ออกมาหาลูก ส่วนทางนี้เจ๊จะดูแลให้เอง”

ปรางค์ทองจะขออยู่กับแม่ แต่แม่เล้าดึงตัวไว้ ก่อนจะพาแกออกไป เปลวสูดลมหายใจเข้าเพื่อรวบรวมความกล้าแล้วเปิดประตูห้องพักแขกเข้าไป ทรงพลนอนหลับอยู่บนเตียงได้ยินเสียงประตูสะดุ้งตื่น มองไปรอบๆ พบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นตา พอเห็นเปลวที่ยืนอยู่ ก็ตกใจลุกพรวด ถามว่าเธอเป็นใคร ที่นี่ที่ไหน

“บ้านดอกไม้แดงค่ะ หนูมารับใช้ท่าน” เปลวว่าแล้วทรุดตัวลงนั่งบนเตียง ทรงพลขยับตัวออกห่างเพราะตั้งแต่ภรรยาตายเขาไม่เคยข้องแวะกับผู้หญิงที่ไหน เปลวนั่งนิ่งรอฟังคำสั่ง ทรงพลเห็นที่มุมปากของเธอมีเลือดซึมทะลุแป้งที่พอกไว้ ก็ชี้ไปที่ปากของเธอ เปลวรีบเช็ดเลือดออก ตัดสินใจจะรีบทำธุระให้เสร็จ ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อตัวเองออก พยายามกลั้นน้ำตาไว้ แต่น้ำตาเจ้ากรรมไม่ยอมเชื่อฟังไหลอาบแก้ม

“พอเถอะ ไม่ต้องแล้ว” ทรงพลมองเธออย่างเวทนา

“หนูขอโทษค่ะท่าน ขอโอกาสให้หนูนะคะ หนูจะทำงานอย่างดีค่ะ”

“ไม่เป็นไร ติดกระดุมเสื้อซะ แล้วออกไปเถอะ”

เปลวขอร้องอย่าไล่กันเลย ไม่อย่างนั้นเธอจะโดนลงโทษ ขอให้เธอได้ทำงานของเธอก็พอ ทรงพลสงสารรู้ว่าเธอถูกบังคับให้ขายตัว อนุญาตให้เธออยู่ต่อไปได้ รอให้เขาหายมึนหัวเมื่อไหร่ค่อยออกไปพร้อมกัน เปลวยิ้มทั้งน้ำตาไหว้ขอบคุณเขาสำหรับความเมตตาในครั้งนี้

ooooooo

แม่เล้าต้องไปต้อนรับแขกจึงปล่อยให้ปรางค์ทองเขียน ก.ไก่ ข.ไข่อยู่ที่มุมห้องรับรองแขก เด็กน้อยเขียนไปถึงตัว ห.หีบ จำพยัญชนะตัวต่อไปไม่ได้ พยายามจะถามแม่เล้า แต่เธอไม่สนใจเพราะมัวยุ่งอยู่กับแขก เด็กน้อยจึงวิ่งไปยังห้องที่แม่เพิ่งเดินเข้าไป

ทรงพลได้ยินเสียงเคาะประตูห้องสั่งให้เปลวไปเปิด เพราะคิดว่าครบเวลาแล้ว เธอต้องตกใจที่เห็นคนเคาะคือปรางค์ทอง ร้องถามมาที่นี่ทำไม เด็กน้อยจำพยัญชนะที่ต่อจาก ห.หีบไม่ได้ก็เลยจะมาถามแม่

“นี่มันอะไรกัน ลูกเธอเหรอ” ทรงพลเสียงเครียด “เธอเป็นแม่ประสาอะไร ปล่อยให้ลูกสาวมาอยู่ในที่แบบนี้ได้ยังไง”

“หนูไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้หรอกค่ะท่าน มีแม่ที่ไหนอยากให้ลูกมาอยู่ในที่แบบนี้ หนูกำลังทำทุกอย่างเพื่อพาลูกออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ถ้าท่านมาเพื่อซื้อบริการก็แค่รับบริการจากหนูไป ท่านไม่รู้หรอกว่าหนูต้องเจอกับอะไรมาบ้าง เพราะฉะนั้นอย่ามาทำเป็นตัดสินหนูหน่อยเลย” เปลวโพล่งขึ้นอย่างเหลืออด

แม่เล้าได้ยินเสียงเอะอะรีบเข้ามาดู “ตายแล้ว ต้องขอโทษด้วยนะคะที่เด็กมันมากวนใจท่าน ไปๆนังหนูไปเล่นที่อื่นเลยไป...ขอโทษจริงๆเลยนะคะ เชิญต่อเลยค่ะท่าน”

“เจ๊ ฉันขอคุยอะไรด้วยหน่อย”

แม่เล้าหันมองเปลวคิดว่าไปทำอะไรให้ทรงพลไม่พอใจ...

เรื่องที่ทรงพลจะคุยกับแม่เล้าคือต้องการซื้อตัวสองแม่ลูก แม่เล้าได้ทีโกงราคาขอหัวละสามแสนบาทขาดตัว เปลวโวยวายว่าสามีของเธอเอาเงินแม่เล้าไปแค่สี่หมื่นบ้านเท่านั้น

“ฉันจะเรียกเท่าไหร่มันก็เรื่องของฉัน แกเงียบไปเลย”

ทรงพลยินดีจ่ายเงินตามที่แม่เล้าต้องการ เปลวดีใจน้ำตาไหลพราก ปรางค์ทองเอามือเล็กๆปาดน้ำตาให้แม่ ทรงพลมองเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู ครู่ต่อมาเขาพาสองแม่ลูกมาที่บ้านของเขา ต้องการให้ทั้งคู่อยู่ที่นี่ด้วยกัน เปลวกราบแทบเท้าสำนึกในพระคุณ ทรงพลรีบพยุงให้เธอลุกขึ้น ขอร้องไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ เขาช่วยเธอกับลูกเพราะเห็นแก่มนุษยธรรมไม่ได้หวังอะไรตอบแทน แล้วหันไปเรียกเด็กน้อยให้มาหา

“ต่อไปนี้ปรางค์เรียกฉันว่าพ่อนะลูกนะ” ทรงพลดึงปรางค์ทองมากอด “ฉันไม่มีลูก เมียก็ตายไปแล้ว ให้ปรางค์เป็นลูกฉันนะเปลว เอ่อ...อย่าเข้าใจผิดฉันนะ เธออยู่กับลูกไป ฉันไม่ได้หมายความว่า...”

“ชีวิตหนูเป็นของท่านแล้ว ท่านจะเมตตายังไงก็สุดแท้แต่ท่านเถอะค่ะ ชีวิตที่เหลือของหนูกับลูก หนูขอใช้มันตอบแทนบุญคุณของท่าน” เปลวน้ำตาไหลอาบแก้ม ปรางค์ทองเข้าไปกอดแม่แล้วปาดน้ำตาให้

“แม่จ๋า อย่าร้องไห้เลย ตั้งแต่นี้เราไม่ต้องร้องไห้แล้วนะจ๊ะแม่จ๋า”

“เออแน่ะ เข้าใจพูดจริงๆลูกใครวะเนี่ย” ทรงพลหัวเราะร่วน

“ลูกแม่เปลวจ้ะ และตั้งแต่วันนี้ หนูจะเป็นลูกพ่อทรงพลด้วยจ้ะ”

ทรงพลหัวเราะชอบใจในความฉลาดและน่ารักของปรางค์ทอง เปลวอดยิ้มออกมาไม่ได้...

เปลวนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาอย่างขมขื่น ขณะที่ทรงพลไม่ได้รู้สึกรู้สมกับความรู้สึกของเธอแม้แต่น้อย

ooooooo

หมออนุญาตให้หญิงสาวปริศนาไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้ เนื่องจากอาการโดยรวมดีขึ้น แม้ตามร่างกายจะยังมีบาดแผลและยังมีผ้าพันแผลพันไว้เกือบทั้งตัว ธงไทยแปลกใจในเมื่อไม่มีกระดูกส่วนไหนหักเสียหาย แต่ทำไมเธอถึงเดินไม่ได้ หมออธิบายว่า เป็นเพราะสมองของเธอถูกทำลายก็เลยจำอะไรไม่ได้แม้แต่เรื่องการใช้ชีวิต

“หมอหมายความว่ายังไงครับ”

“ก็เหมือนเด็กแรกเกิดน่ะแหละครับ เธอต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด”

นวลตกใจถึงกับร้องเอะอะ หมายความว่าหญิงสาวคนนี้ต้องหัดเดินใหม่ หมอพยักหน้าแทนคำตอบ ธงไทย สะเทือนใจกับสิ่งที่ได้ยิน โอบไหล่เธอไว้ด้วยความสงสาร...
ในเวลาไล่เลี่ยกัน นันทนานั่งเล่นมือถือไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปด้วย ไม่ยอมแตะต้องอาหารตรงหน้า นันทารำคาญ เอ็ดตะโรลั่นให้หยุดเล่นมือถือได้แล้ว หัดทำตัวให้มีประโยชน์บ้าง โตป่านนี้แล้วไม่รู้จักทำงานทำการ เธอยังไม่ทันจะอ้าปากเถียง นันทวัฒน์เดินเข้ามาเสียก่อน นันทาเรียกเขาให้กินข้าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

“ไม่ดีกว่าครับคุณแม่ สายแล้ว ผมนัดกับน้องยุริญไว้ครับ คณะลูกค้าที่ญี่ปุ่นจะมาเยี่ยมโรงงานเรา ผมเลยให้น้องยุริญช่วยแนะนำเรื่องของที่ระลึกสำหรับมอบให้กับภรรยาลูกค้า”

“ต๊าย ดีจริงๆ วัฒน์คิดถูกแล้วที่ให้หนูยุริญช่วยเลือก หนูยุริญเป็นคนเก่ง รสนิยมดี” นันทาเปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีขึ้นมาทันทีจนนันทนาเบ้ปากเอือมระอากับท่าทีของท่าน ทนงศักดิ์เดินเข้ามาพอดี คุณแม่ตัวแสบถึงกับหน้าตื่นเมื่อรู้ว่าทนงศักดิ์จะไปช่วยลูกชายซื้อของขวัญให้ลูกค้านั่น เท่ากับไปเป็นก้างขวางคอลูกชายกับ มยุริญ จัดแจงรั้งตัวเขาไว้ ขอให้ช่วยพานันทนาไปศึกษางานที่บริษัท เจ้าตัวโวยวายลั่น จะศึกษางานไปทำไม

“ก็ศึกษาไว้ทำงานน่ะสิ จะนั่งอยู่บ้านให้เป็นง่อยหรือไง ไปแต่งตัว” นันทาสั่งเสียงเฉียบ นันทนาลุกออกจากโต๊ะอาหารอย่างหงุดหงิด นันทวัฒน์เห็นทนงศักดิ์ติดธุระก็เลยจะเลื่อนการไปซื้อของเป็นวันพรุ่งนี้แทน

“ไปวันนี้แหละ นัดหนูยุริญแล้วอย่าผิดนัดเลย”

นันทวัฒน์รับคำ ทำตามที่แม่ว่า นันทาไม่รอช้ารีบตะโกนเรียกกันเกราให้ไปขัดขวางไม่ให้พิชิตตามนันทวัฒน์ ทนงศักดิ์รู้ทันทีว่าเธอมีแผนการอะไรในใจ...

ขณะที่นันทายังไม่ละความพยายามที่จะจับคู่มยุริญให้กับลูกชายตัวเอง จ๊ะจ๋าขี่มอเตอร์ไซค์กลับจากเรียนหนังสือ เพิ่งถึงทางเข้าไร่นวลตะวัน รถเกิดเสียขึ้นมาดื้อๆ จอมขับรถกระบะผ่านมาทางนั้นพอดี เห็นเธอในชุดนักศึกษาดูน่ารักน่าหลงใหล รีบจอดรถเสนอตัวเข้าไปช่วย แม้จะไม่สบายใจนักที่ต้องอยู่กับเขาตามลำพัง แต่เธอไม่มีทางเลือก จอมทำเป็นก้มๆเงยๆกับมอเตอร์ไซค์สักพัก ก็บอกว่าซ่อมไม่ได้ต้องเอาไปส่งช่าง เสนอให้เอามอเตอร์ไซค์ใส่ท้ายรถของเขา เดี๋ยวเขาจะพาไปซ่อมให้เอง จ๊ะจ๋าไม่ไว้ใจ

“ไม่เป็นไร ฉันเข็นเข้าไร่ดีกว่า”

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 2 วันที่ 28 ส.ค. 58

ละครเพลิงตะวัน แนว โรแมนติก-ดราม่า
ละครเพลิงตะวัน บทประพันธ์โดย น้ำผึ้งเดือน 8
ละครเพลิงตะวัน บทโทรทัศน์โดย ดรีมทีม
ละครเพลิงตะวัน กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละครเพลิงตะวัน ผลิตโดย บริษัท ดูมันดี จำกัด
ละครเพลิงตะวันออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเพลิงตะวันได้ทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ