อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 2 วันที่ 27 ส.ค. 58

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 2 วันที่ 27 ส.ค. 58

กลางดึกคืนนี้...คิมหันต์เข้าไปในห้องนอนของวิมลรัตน์ เขาซุกตัวอยู่ที่มุมห้อง...เรื่องราวเมื่อ 17 ปีก่อน ผุดขึ้นในความทรงจำอย่างปวดร้าว...

เวลานั้นเขาเพิ่งอายุได้ 8 ขวบและวิมลรัตน์ในวัย 18 ปี เหตุการณ์ในวันนั้น เขากลัวตัวสั่น เมื่อทั้งพ่อและแม่ถูกโจรปล้นและฆ่าตาย เขากอดพี่สาวร้องไห้ ถามว่าไม่มีพ่อไม่มีแม่แล้ว เราจะอยู่กันอย่างไร วิมลรัตน์กอดน้องปลอบว่า

“พี่ยังอยู่นี่ไง พี่จะดูแลคิมแทนพ่อกับแม่เอง” คิมหันต์กอดพี่สาวแน่นอ้อนวอนอย่าทิ้งตนไปไหน “พี่สัญญา พี่จะไม่มีวันทิ้งคิมไป นอกจากพี่จะตายเท่านั้นแหละ”



“ไม่เอา...พี่มลต้องไม่ตาย พี่มลอย่าตายนะ...ห้ามตายนะพี่มล...” เด็กชายคิมหันต์กอดพี่สาวไว้แน่น

คิดถึงวันนั้นแล้ว คิมหันต์น้ำตาไหลพราก เขาลุกไปที่มุมห้องหยิบกรอบรูปใหญ่ตรงนั้นขึ้นดู เป็นรูปที่วิมลรัตน์ถ่ายกับธาดาเมื่อครั้งรักกันใหม่ๆ เป็นรูปคู่ที่สวยงามและโรแมนติกมาก

คิมหันต์คิดถึงเมื่อสามปีก่อน ที่วิมลรัตน์บอกเขาว่าจะแต่งงานกับธาดา คิมหันต์ติงว่าธาดาอายุน้อยกว่า เธอพูดอย่างมีความสุขว่า “ไม่มีผู้ชายคนไหนทำให้พี่มีความสุขได้อย่างเขา...อายุไม่ใช่ปัญหา”

เวลานั้นเขาติงอีกว่า “เพราะพี่มลรวยน่ะสิ ลองพี่มลไม่มีตังค์สิ มันจะรักพี่ไหม”

“อย่าพูดอย่างนี้นะคิม อย่าดูถูกคนอื่น อย่างน้อยเขาก็เป็นพี่ชายยายมุกรินนะ”

ธาดาเองก็เคยบอกเขาว่า “ถ้านายรักน้องสาวฉันได้ นายก็น่าจะรักฉันได้ไม่ยาก” เวลานั้นเขาบอกธาดาเชิงปรามว่า

“ถ้าคุณทำให้พี่มลเสียใจแม้แต่นิดเดียว...”

“มันจะไม่มีวันนั้น...พนันกันไหมล่ะ...เดิมพันด้วยชีวิตยังได้เลยน้อง”

คิดแล้วคิมหันต์แค้นจนหยิบมีดแทงรูปตรงหน้าธาดาจนทะลุ กระนั้นก็ยังไม่สาสมแก่ใจ

เช้านี้มุกรินเอาอาหารมาให้คิมหันต์ที่บ้าน แต่ไขกุญแจเข้าบ้านไม่ได้เหมือนปกติ โทร.ถามเขาบอกว่าเปลี่ยนกุญแจเพราะไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายในบ้านตน พูดแล้วตัดสายเลย มุกรินยืนอึ้ง สับสนระคนน้อยใจอยู่ที่หน้าบ้านนั่นเอง

แล้ววันนี้ธาดาก็ไปที่ร้าน MOLLY ที่ขายสินค้านำเข้าของวิมลรัตน์ ตรงไปที่โต๊ะทำงานของวิมลรัตน์บอกพนักงานว่าเมื่อพี่มลไม่อยู่ตนก็ต้องนั่งตรงนี้ และทำหน้าที่บริหารงานต่อ ถามว่ามีใครไม่เห็นด้วยหรือใครอยากขึ้นมาแทนยกมือให้ดูซิ มีไหม!

เมื่อไม่มีใครกล้ายกมือ เขารวบรัดว่าถ้างั้นก็ทำงานตามปกติไป มีพนักงานคนหนึ่งใจกล้าถามว่า ระหว่างงานศพเจ๊มล เราจะไม่ปิดร้านหรือ อย่างน้อยก็เป็นการไว้ทุกข์ให้เจ๊ ธาดาชะงักไปนิดหนึ่งแล้วตีขลุมหน้าตายว่า

“ที่จริง ผมตั้งใจจะประกาศบ่ายนี้แหละ เราจะปิดร้านตั้งแต่พรุ่งนี้จนกว่าจะเสร็จงานศพ”

“หวังว่าคุณธาดาจะมีโอกาสไปร่วมงานนะคะ” พนักงานคนนั้นพูดเบาๆ แล้วรีบเดินหนี ธาดามองตามเคืองๆ

ooooooo

พักตราฉวยโอกาสนี้รุกคิมหันต์อย่างต่อเนื่อง วันนี้เธอไปหาเขาที่บ้านวิมลรัตน์ คนรับใช้เข้าไปบอกคิมหันต์ขณะเขากำลังตรวจเอกสารที่โต๊ะของวิมลรัตน์ว่ามีคนมาหา เขาถามว่าใคร ผู้หญิงหรือผู้ชาย? ระบุว่าถ้าเป็นมุกรินไม่ต้อนรับ

พักตราเดินเข้ามาถึงแล้ว เธอกระแซะเขาทันที พอคิมหันต์เห็นเป็นเธอ เขาสั่งคนรับใช้ให้เอาน้ำมารับแขก

พักตราไม่เพียงมาเกาะติดคิมหันต์ เธอยังโทร.ไปบอกมุกรินถามเย้ยๆว่าวันนี้มุกเข้าบ้านคิมไม่ได้ใช่ไหม มุกรินถามว่าเธอรู้? พักตราว่าอ้างว่าคิมหันต์เล่าให้ฟัง มุกรินถามว่าแล้วตอนนี้เธออยู่ไหนหรือ

“พักตร์มาดูแลคิมแทนมุกไง ไม่ต้องห่วงนะ สักพักก็คงจะดีขึ้นเอง เซฮัลโหลกับคู่หมั้นหน่อยไหม”

พอมุกรินบอกว่าไม่ดีกว่า พักตราก็หันไปบอกคิมหันต์ว่ามุกรินยังไปทำงานได้ตามปกติ ไม่มีอะไรน่าห่วง แล้วยุแยงว่า

“อย่างน้อยก็มีตาปรารภคอยดูแลอยู่อีกทั้งคน เชื่อพักตร์สิ” แต่คิมหันต์ฟังแล้วหน้านิ่งไร้ความรู้สึก

ปรารภเห็นมุกรินคุยโทรศัพท์แล้วหน้าเครียด ถามว่ามีอะไรหรือเปล่า มุกรินบอกว่าพักตราโทร.มาแสดงความเป็นห่วงเท่านั้น ปรารภถามว่าแล้วธาดาเป็นยังไงบ้าง มุกรินบอกว่าไปทำงานตามปกติ แต่ไม่รู้ว่าตำรวจจะนัดไปคุยอีกเมื่อไร

แต่ตำรวจไปรวบตัวธาดาที่ร้าน MOLLY แล้ว เขาถูกหมายจับในคดีจงใจฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และถูกใส่กุญแจมือทันที

คืนนี้เอง คิมหันต์โทรศัพท์ไปบอกมุกรินว่า

“นี่คิมพูดนะมุก...ไม่มีอะไรมาก แค่จะโทร.มาบอกว่าพี่ชายคุณถูกจับแล้วนะ ตำรวจทำงานได้รวดเร็วน่าชมเชยจริงๆ ถ้ามุกจะเยี่ยมพี่ชายก็เชิญที่ สน.นะ ถ้ามุกไปก็เจอผมได้ที่นั่น เท่านี้แหละ” วางสายแล้วคิมหันต์ยิ้มสะใจ

คิมหันต์ไปถึงสถานีตำรวจก็เจอมุกรินมาถึงก่อนแล้ว เขาทักว่าแสดงว่าเธอรู้เรื่องก่อนที่ตนจะบอก เข้าไปนั่งข้างมุกรินพูดเหมือนให้เธอทำใจแต่เย้ยในทีว่า “คนทำผิดก็ต้องรับผลกรรมเป็นธรรมดา มุกคงเข้าใจ”

มุกรินเข้าใจ แต่บอกเขาว่า “แต่มุกไม่เข้าใจท่าทีของคิมที่ทำกับมุก ทำไมคิมต้องทำท่าเหมือนรังเกียจมุกมากมายขนาดนี้ มุกทำผิดอะไรเหรอคิม...หรือแค่เป็นน้องพี่ธาดา มุกก็ผิดแล้ว” คิมหันต์ตอบอย่างที่เธอคาดไม่ถึงว่า...ก็อาจจะใช่

คิมหันต์ขอตำรวจไปดูหน้าคนทำผิด ตำรวจไม่อนุญาต เขาขอร้องจนตำรวจยอมให้เข้าไปแต่กำชับว่าอย่าให้มีเรื่อง มุกรินจึงขอตามไปด้วย คิมหันต์เข้าไปพูดเยาะเย้ยเหยียดหยามธาดาต่างๆนานา จนมุกรินทนไม่ได้ขอร้องให้เขาพอเถอะ ธาดาไล่ตะเพิดให้เขาออกไป เมื่อยังไม่ยอมไปเลยถูกธาดากระชากคอเสื้อผ่านลูกกรง คิมหันต์บีบคอธาดาผ่านลูกกรงเช่นกัน จนทั้งตำรวจและมุกรินต้องช่วยกันห้ามและดึงตัวแยกจากกัน บอกมุกรินกับคิมหันต์ให้กลับไปเสีย ขืนอยู่แถวนี้เดี๋ยวมีเรื่องอีก

“คิม...เรายังเป็นคู่หมั้นกันอยู่ไหม?” มุกรินถาม คิมหันต์ยกมือที่มีแหวนหมั้นให้ดู บอกให้เธอขับรถกลับดีๆนะ แล้วแยกกันไป ชุมสายเตือนเพื่อนว่าวู่วามแบบนี้มันไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ทำบ่อยๆเข้าอาจเป็นผลเสียด้วยซ้ำ แล้วเตือนว่า

“อีกเรื่องนึงว่ะ จะทำอะไรนึกถึงใจคุณมุกเขาบ้าง ...สงสารเขาสักนิดเถอะเพื่อน”

ooooooo

การถูกจับของธาดาเป็นข่าวครึกโครม สื่อรายงานและแพร่ภาพอย่างละเอียดนับแต่ธาดาถูกจับขังที่โรงพัก จนถึงส่งฟ้องศาลและนำตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ

หลังจากนั้นก็มีนายบรรเจิดแนะนำตัวเองว่าเป็นทนายความที่ เสธ.ส่งมาว่าความให้ บอกธาดาว่าไม่ต้องห่วงเรื่องคดีความเพราะ ไม่มีใครอยากเสียเงินสี่สิบล้านฟรีๆ ธาดาถามว่าเมื่อไรตนจะได้ออกไป

“เร็วที่สุด แต่ต้องหลังจากที่คุณเล่าความจริงให้ผมฟังก่อน ผมขอความจริงทั้งหมด ห้ามปิดบังแม้แต่เรื่องเดียว ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องอาย เรื่องผิดถูก เป็นหน้าที่ของผม”

ธาดาฟังแล้วอึ้งไปพักใหญ่...

ooooooo

พักตราไปที่หามุกรินที่บริษัท ถามว่างานยุ่งไหม มุกรินบอกว่าไม่ยุ่ง งานอีเวนต์ตัวใหม่ยังเพิ่งเริ่มคุยข้อมูลกับลูกค้า

พักตราทักว่าหน้าตาเธอซีดเซียวมาก นอนน้อยใช่ไหม มุกรินพยักหน้าทำเสียงอืม...ในลำคอ ในใจคิดอยู่ไม่รู้ว่าพักตรามีเจตนาอย่างไร พักตราถามว่ายังประกันตัวไม่ได้ใช่ไหม มุกรินทำเสียงอืม...

“น่าเห็นใจจัง ความสัมพันธ์ของเธอกับคิมก็พลอยกระท่อนกระแท่นไปด้วยเลยสินะ”

ไม่ทันที่มุกรินจะพูดอะไร ปรารภก็เดินเข้ามาหยุดมองมุกรินอย่างเป็นห่วง ในขณะที่พักตรายังพล่ามต่อไปว่า

“แต่เธอต้องเข้าใจคิมนะ พี่สาวของเขาตายทั้งคน จะให้มาระรื่นสวีตเหมือนเดิมกับน้องสาวฆาตกร ก็คงจะยาก”

“ศาลยังไม่ได้ตัดสินว่าพี่ธาดาเป็นฆาตกรนะ”

“โอ้ย...ไม่ต้องรอศาลหรอก ใครๆก็รู้ว่าพี่เธอน่ะใจร้ายขนาดไหน แต่ฉันเห็นใจเธอนะ คนเป็นน้องสาวฆาตกร ก็ต้องกระอักกระอ่วนใจไม่น้อยแบบนี้แหละ”
ปรารภเดินเข้ามาที่โต๊ะมุกริน เอ่ยขอโทษพักตราถามว่ามีธุระสำคัญอะไรกับมุกรินหรือเปล่า ถูกเธอถามเสียงขุ่นว่า

“ทำไมคะคุณปรารภ ลูกสาวประธานบริษัทจะขอคุยเรื่อยเปื่อยกับพนักงานบ้างไม่ได้เหรอคะ”

“พอดีผมมีงานสำคัญต้องปรึกษาพนักงานของผมน่ะครับ หวังว่าลูกสาวประธานจะไม่ขัดขวางกิจการในบริษัทของคุณพ่อนะครับ”

พักตราโกรธแต่พูดไม่ออก ปรารภจึงบอกมุกรินว่า เดี๋ยวเชิญที่ห้องประชุมด้วยแล้วเดินออกไป พักตรายังพล่ามกับมุกรินว่า

“ฉันไปก็ได้ ที่มานี่แค่จะมาบอกว่า เธออย่าไปงานศพเจ๊มลเลย จะทำให้คิมเขาเครียดเปล่าๆ ช่วงนี้ฉันรับหน้าที่ดูแลเทกแคร์คิมเอง ยังไงๆ เขากับฉันก็เป็นแฟนเก่ากัน ยังพอรู้มือ รู้ใจกันอยู่ บ๊ายบาย...”

พักตราทิ้งทุ่นแล้วนวยนาดออกไป ปล่อยให้ มุกรินมองตามอย่างไม่สบายใจนัก

ooooooo

มุกรินไปที่ห้องประชุมบริษัท ปรารภแนะนำให้รู้จักกับคุณบรรเจิดทนายความของธาดา เขาจะขอคุยกับเธอสักครู่แล้วปรารภจะออกไป

“พี่รภคะ มุกขอบคุณค่ะ”

ปรารภหันยิ้มให้แล้วออกจากห้องไป บรรเจิดจึงเริ่มการพูดคุยกับมุกริน แนะนำตัวเองและหน้าที่ของตนว่า

“หน้าที่ของผมคือทำให้พี่ชายคุณพ้นจากข้อกล่าวหา อันนี้เป็นความปรารถนาของคุณด้วย ถูกต้องไหมครับ ผมถามตรงๆเลยนะ คุณเชื่อไหมว่าพี่ชายคุณไม่ได้ฆ่าภรรยาตัวเอง” มุกรินนิ่งอึ้ง บรรเจิดยิ้มถามต่อว่า “ไม่ต้องตอบผมครับ และถ้าใครถามคำถามนี้กับคุณ คุณก็ต้องไม่ตอบนะครับ...แล้วผมจะมาหาคุณอีกที เฉพาะเวลาที่จำเป็น”

ก่อนทนายบรรเจิดจะออกไป เขาบอกอีก “อ้อ...ถ้าคุณอยากจะเยี่ยมพี่ชายคุณ นอกเหนือจากเวลาเยี่ยมปกติ บอกผม ผมใช้สิทธิ์ทนายได้ นี่นามบัตรผมครับ”
ทนายบรรเจิดไปแล้ว มุกรินจึงหยิบนามบัตรขึ้นดู...

ooooooo

ที่สำนักกฎหมายบูรพา...ชุมสายหอบเอกสารปึกใหญ่ก้าวเข้ามา แนะนำแก่คิมหันต์ที่นั่งอยู่ก่อนแล้วว่า

“นายบรรเจิด เลิศธนทรัพย์ ทนายความชื่อดังผู้คร่ำหวอดในการสู้คดีให้จำเลย ทุกคดีที่หมอนี่ว่าความให้...จำเลยหลุดหมด ศาลยกฟ้องทุกคดี...ไม่น่าเชื่อ” คิมหันต์แทรกขึ้นว่า แต่ไม่ใช่คดีนี้! “แต่มันก็มีสัญญาณเตือนเราว่า ต้องเตรียมรับมือให้ดี” คิมหันต์ยังเชื่อมั่นว่าไม่มีใครบิดเบือนความจริงไปได้

ชุมสายบอกว่าหลายๆเรื่องก็ต้องใช้เวลานานกว่าความจริงจะปรากฏ คิมหันต์มองหน้าเพื่อนย้ำว่า

“นั่นมันหน้าที่ของแก ฉันถึงตั้งให้แกเป็นทนายร่วมไง”

ขณะนั้นเอง มีชายสูงวัยก้าวเข้ามา ชุมสายแนะนำว่า

“นี่ท่านอาจารย์ประสงค์ อัยการคดีของเรา...คุณคิมหันต์ น้องชายผู้ตายครับ”

หลังจากสวัสดีทักทายกันแล้ว อัยการนั่งลง สีหน้าแววตามีอาการวิตกเล็กน้อย เอ่ยแก่ทุกคนในที่นั้นว่า

“เจ้าหน้าที่เพิ่งแจ้งผมมาว่า ตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของคุณวิมลรัตน์แล้ว มีสายโทร.เข้าออกระหว่างเครื่องของคุณวิมลรัตน์กับเครื่องของนายธาดาจริง โทร.ครั้งสุดท้ายเวลาตีสี่กว่าๆ มันตรงกับที่จำเลยอ้างพยานยืนยันว่าเขาไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ”

ชุมสายถามว่าพยานคือใคร พอประสงค์บอกว่ามุกริน ชุมสายติงทันทีว่า “น้องสาวจำเลยนะครับ”

“ใช่...ซึ่งศาลก็คงไม่ฟังเพราะเป็นญาติกัน แต่มันทำให้เราต้องหาหลักฐานมัดตัวจำเลยให้รัดกุมยิ่งขึ้น นอกจากมุกรินจะปฏิเสธการเป็นพยาน”

เวลาเดียวกัน มุกรินไปเยี่ยมธาดาที่เรือนจำกลาง ทั้งสองคุยกันทางโทรศัพท์โดยมีลูกกรงและกระจกกั้น มุกรินเล่าว่า เมื่อวานนี้ทนายบรรเจิดไปหาตน เขาถามว่าตนเชื่อพี่ใหญ่ไหม แต่ถามแล้วก็บอกว่าไม่ต้องพูดก็ได้ มุกรินบอกพี่ชายว่า

“มุกอยากฟังจากปากพี่ใหญ่อีกครั้ง”

ooooooo

ขณะที่มุกรินฟังเหตุการณ์จากปากธาดาอีกครั้งนั้น ฝ่ายคิมหันต์และชุมสายก็วิเคราะห์เหตุการณ์จากการคาดคะเนอยู่เช่นกัน

ชุมสายวิเคราะห์ว่า คืนนั้นมีพายุเข้า ฝนตกหนัก กล้องวงจรปิดทุกตัวไม่สามารถบันทึกภาพได้ เราจึงไม่มีทางรู้เวลาเข้าออกที่แน่นอนของธาดา แต่จากสภาพสถานที่เกิดเหตุ คะเนได้ว่า

“เมื่อทั้งคู่เดินเข้าบ้านแล้วก็นั่งดื่มเหล้ากันตรงนี้... ซึ่งน่าจะดื่มกันไม่น้อยเสียด้วย”

เหตุการณ์ในคืนนั้นคือ ทั้งสองนั่งดื่มเหล้ากันแก้วใหญ่ แล้วเริ่มมีปากเสียงกันเรื่องหนี้สินและเงินทอง วิมลรัตน์ตำหนิธาดาอย่างรุนแรงเรื่องชอบเล่นการพนัน เล่นทีไรก็มีแต่เสีย และตนก็ต้องจ่ายให้ทุกครั้ง บ่นแล้วตัดเชือกว่า

“ห้ามแล้วไม่เชื่อ ก็ไปหาเงินใช้หนี้เอาเองเถอะ”

“ผมจะไปหาที่ไหนล่ะ วันๆก็ติดแหง็กอยู่กับคุณอย่างนี้ คุณไม่ยอมให้ผมกระดิกตัวไปไหนเลย”

“กระดิกตัวไม่ได้แล้วทำไมแอบไปเข้าบ่อนได้”

ธาดาเล่าเชิงบ่นกับมุกรินว่า “เขาเมา มุกรู้ใช่ไหมว่าพี่มลเขากินเหล้าดุขนาดไหน...เคยเห็นใช่ไหม พอเขาเมาก็พาลหาเรื่องพี่ เขาด่าพี่ที่ทำอะไรก็เจ๊งแล้วก็ต้องมาขอเงินเขา”

ฝ่ายคิมหันต์วิเคราะห์ว่า “ครั้งนี้ พี่มลคงไม่ให้ พี่มลเคยประกาศว่าจะไม่ให้มันผลาญเงินเล่นอีกแล้ว”

“นายธาดาก็เลยโกรธ อาละวาด ขว้างปาข้าวของ” ชุมสายคาดเดาต่อ และก็ตรงกับความจริง

ธาดาบอกมุกรินว่าวิมลรัตน์คิดจะทิ้งตน เขาคง เบื่อที่ตนขอเงินบ่อย แต่ตนเชื่อว่าเขาเองก็หลงผู้ชายอื่นมากกว่า พอตนพูดดักคอ เขาก็โกรธและเอาปืนขู่จะยิง

แต่ฝ่ายชุมสายคาดว่า “นายธาดาอาจมีกิ๊ก พี่มลคงจับได้ก็เลยโกรธ ใช้ปืนขู่ จากนั้นก็แย่งปืนกันจนปืนลั่น”

ระหว่างที่ทั้งสองแย่งปืนกันนั้น ปืนลั่นขึ้นห้านัดโดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง ชุมสายจำลองเหตุการณ์ว่า

“นายธาดาบีบคอพี่มล แล้วก็ดันพี่มลจนมาล้มกระแทกขอบอ่างอาบน้ำตรงนี้” ชุมสายไปชี้จุดที่ห้องน้ำ

ธาดาเล่าให้มุกรินฟังว่า ตนรีบหนีออกจากบ้านแล้วก็มาหาเธอ แต่เธอยังไม่กลับจึงนั่งรออยู่ในรถ เล่าอย่างอ่อนล้าว่า

“พี่ใช้โทรศัพท์คุยกับเขา เผื่อว่าเขาจะอารมณ์เย็นลง...แต่ก็ไม่เลย...มีตรงไหนที่พี่เล่าไม่เหมือนเดิมไหม” มุกรินบอกว่าไม่มี ธาดาย้ำอย่างมั่นใจว่า “ความจริง... จะพูดกี่ครั้งมันก็เหมือนเดิมทุกครั้งแหละมุก”

ทนายบรรเจิดเดินเข้ามายืนข้างหลังมุกริน ขอโทรศัพท์ที่เธอกำลังคุยกับธาดาไปพูดเอง

“โชคดีเป็นของคุณนะ คุณธาดา” แล้วบอกว่า “ไม่เกินทุ่มนึงคืนนี้ คุณน่าจะออกมาได้” มุกรินดีใจถามว่าจริงหรือ “ศาลน่าจะยอมให้ประกันตัว ผมดำเนินเรื่องเรียบร้อยแล้ว คืนนี้อยากจะไปผ่อนคลายที่ไหนก็นึกไว้เลยนะ”

“วัด...ผมอยากไปไหว้ศพเมียผม”

ooooooo

ชุมสายนำข่าวธาดาได้ประกันตัวไปบอกคิมหันต์ที่วัด คิมหันต์ไม่พอใจมาก ถามว่าปล่อยมันออกมาได้ยังไงไอ้คนเลวๆแบบนี้ ชุมสายคาดว่า

ศาลคงเห็นว่าเขาไม่มีทีท่าหลบหนีและหลักทรัพย์ในการประกันก็สูงด้วย

คิมหันต์ถามว่ารู้ได้ไงว่ามันจะไม่หนี ชุมสายบอกว่าเพราะที่แห่งแรกที่ธาดาจะมาก็คือที่นี่ เขาตั้งใจจะมากราบศพพี่มลให้ได้ เตือนคิมหันต์ว่า

“แกต้องเก็บอารมณ์ให้ดีนะเว้ย อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม มันไม่เป็นผลดีทั้งนั้น”

“ฉันไม่บุ่มบ่ามหรอก ไม่ใช้อารมณ์ด้วย ง่ายๆสบายๆ ตรงไปตรงมา มันเหยียบศาลาเมื่อไหร่ มันตายเมื่อนั้น เท่านั้นแหละ” คิมหันต์แววตาแข็งกร้าวดุดันมาก
มุกรินขับรถพาธาดาบ่ายหน้าไปที่วัดคืนนี้เลย ระหว่างนั้นเสียงมือถือมุกรินดังขึ้น เธอรับสายเปิดเสียงผ่านลำโพงวิทยุในรถ เป็นสายจากชุมสาย ถามเธอว่าธาดากำลังมาที่วัดหรือเปล่า พอมุกรินอกว่าใช่ เขาขอร้องเธอว่า

“ผมขอพูดตรงๆอีกทีนะครับ ถ้าคุณธาดามาที่วัดจริง มันอาจเกิดเรื่องขึ้นได้...” มุกรินตกใจถามว่าเรื่องอะไรหรือ “คุณก็รู้ว่าช่วงนี้นายคิมหันต์มีท่าทียังไง ...ผมว่าทางที่ดี คุณน่าจะ...”

“ทำไมวะ!” เสียงธาดาตัดบทอย่างฉุนเฉียว “ฉันจะไปไหว้เมียฉันไม่ได้เลยเหรอ มันเกินไปแล้ว บอกนายคิมหันต์เพื่อนนายด้วยว่า เป็นไงเป็นกัน...เมียฉันตายไปคนนึงแล้ว ฉันไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว จะเอากันให้ถึงตายเลยก็ได้ มาลองดูกันไหม” พูดจบธาดากดปุ่มเลิกการสนทนาทันที

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 2 วันที่ 27 ส.ค. 58

ละครรอยรักแรงแค้น บทประพันธ์โดย ชลาลัย
ละครรอยรักแรงแค้น บทโทรทัศน์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น กำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น ผลิตโดย บริษัท สามัญการละคร จำกัด
ละครรอยรักแรงแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น.
ติดตามชม ละครรอยรักแรงแค้น ได้ทางทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ