อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 1 วันที่ 26 ส.ค. 58

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 1 วันที่ 26 ส.ค. 58

ธาดาบอกว่าตนจะไม่กลับมาที่นี่อีก วิมลรัตน์ถามว่าเขามีผู้หญิงอื่นใช่ไหม จะหนีไปอยู่กับผู้หญิงอื่นใช่ไหม?! ธาดาตวาดว่าตนจะไปหาเงินจากที่อื่น

“กลับมาเดี๋ยวนี้ ถ้าก้าวออกไปจากบ้านนี้ก้าวเดียว แกตาย!”

วิมลรัตน์หันหยิบปืนในลิ้นชักเล็งใส่ธาดา เสียงฟ้าคำรามสนั่น ไฟในห้องดับๆ ติดๆ ท่ามกลางแสงไฟที่กะพริบนั้น เสียงตึงตังโครมครามดังแข่งกับเสียงฝนฟ้าคำราม แล้วไฟในห้องก็ดับสนิท แต่เสียงโครมครามในห้องยังดังไม่หยุด



ครู่หนึ่ง ธาดาก็ขับรถพุ่งออกจากบ้านไปราวกับพายุ!

ooooooo

ฟ้าสางแล้ว คิมหันต์ขับรถมาส่งมุกรินที่หน้าบ้าน เธอเร่งให้เขารีบไปเดี๋ยวไม่ทันงาน กำชับให้ขับรถดีๆ แล้วเดินเข้าบ้าน แต่ไม่ทันทำอะไร ธาดาก็เดินตัวเปียกโชกเข้ามา พร่ำบอกแต่ว่า

“มุก...ช่วยพี่ด้วย ช่วยพี่นะมุก...ช่วยพี่ด้วย...”

มุกรินประคองพี่ชายที่เหมือนคนควบคุมสติไม่อยู่เข้าบ้านไปงงๆ

หลังจากนั้น หลายวัน...ที่บ้านวิมลรัตน์ ถวิลกับไสว คนรับใช้ ตกใจแทบสิ้นสติเมื่อกลับจากต่างจังหวัด เบิ้มออกมารับเข้าบ้านไม่นาน เสียงกรีดร้องจากในบ้านก็ลั่นไปทั้งซอย!

หลังจากนั้นสังคมก็ตะลึง เมื่อผู้ประกาศข่าวทีวี อ่านข่าวใหญ่อย่างตื่นเต้น...

“เกิดเหตุช็อกผู้คนในวงสังคม เมื่อเจ้าแม่วงการสินค้านำเข้าอย่างคุณวิมลรัตน์ สุริยะศักดิ์ ถึงแก่กรรมลง โดยช่วงสายของวันนี้เอง คนรับใช้ที่เพิ่งกลับจากต่างจังหวัดเป็นผู้พบศพ สภาพศพเริ่มบวมอืดแล้ว โดยในขั้นต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ขอยืนยันแน่ชัดว่าเสียชีวิตมาแล้วกี่วัน”

มุกรินยืนดูข่าวทีวีอยู่กับเพื่อนพนักงานที่บริษัท ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เมื่อผู้ประกาศข่าวรายงานว่า

“ด้านนายธาดา คุรุรัตน์ ผู้เป็นสามีนั้น เจ้าหน้าที่พยายามติดต่อ แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่เจอตัว ส่วนน้องชายคนเดียวของคุณวิมลรัตน์คือนายคิมหันต์ สุริยะศักดิ์ ยังทำงานถ่ายภาพอยู่ที่ต่างจังหวัด เมื่อทราบเรื่องจากผู้สื่อข่าวถึงกับมีอาการช็อกอย่างเห็นได้ชัด”

จากนั้นก็มีภาพการสัมภาษณ์คิมหันต์ที่เขาใหญ่ เขาพูดหน้าเครียดอย่างเจ็บแค้นว่า

“ใครก็ตาม ที่ทำกับพี่มลแบบนี้ มันจะต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสมที่สุด! มันทำพี่มลเจ็บแค่ไหนมันจะต้องเจ็บมากกว่าเป็นร้อยๆเท่า” เขาชี้ใส่กล้องอย่างดุดัน “ระวังตัวให้ดี...ฉันไม่เอาแกไว้แน่!”

ooooooo

เจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่บ้านมุกริน บ้านใส่กุญแจ ตำรวจจึงไปที่บริษัท ปรารภเข้าไปบอกมุกรินที่โต๊ะว่าตำรวจขอคุยด้วย

มุกรินถามตำรวจว่ามีเรื่องอะไรกับพี่ใหญ่หรือ ตำรวจไม่ตอบแต่ย้อนถามว่าตอนนี้พี่ชายเธออยู่ไหน เธอติดต่อเขาบ้างหรือเปล่า มุกรินบอกว่าธาดาไปฮ่องกงจะกลับวันสองวันนี้แหละ

“คุณพอจะติดต่อคุณธาดาได้ไหมครับ” ตำรวจถาม มุกรินนิ่งอึ้งไป ปรารภมองอย่างเป็นห่วงอยู่ห่างๆ

ที่บ้านวิมลรัตน์ ตำรวจกันเขตห้ามเข้าในบริเวณพื้นที่สำคัญ นักข่าวมากมายกำลังสัมภาษณ์ชาวบ้านแถวนั้นและชะเง้อมองเข้าไปในบ้านหมายได้เห็นอะไรบ้าง

คิมหันต์ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียด นายไสวรีบเข้าไปหาบอกว่า

“คุณชุมสายมารอคุณคิมตั้งแต่เช้าแล้วครับ”

คิมหันต์พยักหน้า ก็พอดีมือถือดังขึ้น เขาดูหน้าจอ ก็พอดีชุมสายทนายความที่เป็นเพื่อนสนิทเดินมาเร่ง

“คิม...รีบเข้าข้างในบ้านก่อนที่นักข่าวจะมารุมสัมภาษณ์แกไหม”

คิมหันต์พยักหน้า โยนมือถือไว้ในรถแล้วรีบตามชุมสายเข้าบ้านไป

ooooooo

มุกรินถือโทรศัพท์บอกปรารภว่าคิมหันต์ไม่รับสาย ปรารภถามว่าเขากลับจากเขาใหญ่แล้วหรือ

“ค่ะ เมื่อคืนเพิ่งคุยกัน ก่อนที่จะมีข่าวพี่มล...”

“อาจจะกำลังสะเทือนใจอยู่ เลยไม่อยากพูดจากับใคร” ปรารภมองหน้ามุกรินเหมือนชั่งใจก่อนถามว่า “พี่ถามตรงๆได้ไหมมุก...พี่ชายมุกมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยไหม” มุกรินถามว่าเขาคิดอย่างนั้นหรือ “พี่คิดแทนตำรวจน่ะ...ไม่แน่นะ คิมหันต์อาจจะคิดแบบนี้ด้วยก็เป็นได้”

มุกรินถามว่านี่คือสาเหตุที่เขาไม่รับสายตนหรือ ปรารภเสนอว่า “เราคงต้องรอให้พี่ชายคุณกลับมาก่อน... อะไรๆก็จะชัดขึ้นเอง คุณโทร.เจอตัวเขารึยัง” มุกรินส่ายหน้า “งั้นตอนนี้ เราควรจะแวะไปให้กำลังใจคู่หมั้นคุณหน่อยนะ ไป...ผมขับรถไปส่งให้เอง”

ooooooo

ชุมสายพาคิมหันต์เข้าไปในบริเวณบ้าน เห็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆกำลังทำงานกันอย่างเคร่งเครียด ชุมสายเล่าให้คิมหันต์ฟังว่า

“เจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปสาเหตุการเสียชีวิต แต่พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุก็บ่งชี้ได้ถึงการทะเลาะวิวาท ทั้งปืน ทั้งรอยกระสุน เพียงแต่ว่า สภาพศพผู้ตายดูเหมือนจะเสียชีวิตมาเกินกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง ทำให้การหาหลักฐานทางนิติเวชในตัวผู้ตายทำได้ลำบาก”

คิมหันต์เดินดูสภาพในห้อง เดินไปที่ห้องน้ำ ศพของวิมลรัตน์ยังไม่ได้เคลื่อนย้าย เขาทรุดลงน้ำตาไหลพราก ความแค้นพลุ่งพล่าน จนเมื่อชุมสายพานายตำรวจพันโทเข้ามาแนะนำ

“คิม...นี่ท่านรองอาณัติ เป็นเจ้าของคดีนี้”

“ผมขอรับรองว่า เราจะทำคดีนี้ให้รอบคอบและรวดเร็วที่สุดครับ” รองอาณัติเอ่ย คิมหันต์ถามว่ามีใครค้านไหมว่าไม่ใช่ฆาตกรรม “ถึงยังไงเราก็ต้องไม่ตัดประเด็นอื่นด้วย”

คิมหันต์เดาว่าปืนลั่น? อาณัติบอกว่าไม่มีรอยกระสุนที่ร่างผู้ตาย เขาเดาอีกว่าลื่นล้มศีรษะกระแทกเองหรือ? ชุมสายถามท่านรองว่าฟังดูไม่น่าเป็นไปได้ใช่ไหม

“มันคือฆาตกรรมครับ เป็นการจงใจฆ่าชัดๆ และผมรู้ด้วยว่าไอ้ฆาตกรคือใคร” คิมหันต์โพล่งออกมาอย่างแค้นใจ

ooooooo

ระหว่างที่ปรารภขับรถพามุกรินไปนั้น เธอโทร.หาธาดา ติดต่อได้จึงรู้ว่าเขาเพิ่งลงจากเครื่อง เธอถามว่ารู้เรื่องพี่มลหรือยัง

ธาดาบอกว่าเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้ แต่พอมุกรินบอกว่าตำรวจต้องการเจอตัวเขา ธาดานิ่งไปอึดใจแล้ว จึงถามว่า

“มุกบอกอะไรตำรวจไปบ้างหรือยัง”

“ยัง...มุกกำลังจะไปหาคิม เขาคงต้องการกำลังใจ”

“โอเค...แล้วค่อยคุยกันนะ” แต่ธาดายังไม่ทันออกจากสนามบินก็ถูกตำรวจเชิญตัวไปสอบปากคำแล้ว

ที่บ้านวิมลรัตน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเคลื่อนย้ายศพวิมลรัตน์ คิมหันต์ถามว่า

“ถ้าผมจะเก็บสภาพที่เกิดเหตุไว้ให้เหมือนเดิม จะมีประโยชน์ต่อคดีไหมครับ” รองอาณัติบอกว่าได้เพราะตำรวจเก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว “ผมจะเก็บห้องพี่มลไว้อย่างนั้น จนกว่าจะได้ตัวคนร้ายมาลงโทษ”

ขณะนั้นเอง รถของปรารภแล่นเข้ามาจอด ชุมสายสะกิดบอกคิมหันต์ว่าคู่หมั้นเขามา คิมหันต์สีหน้านิ่งเฉย

“คิม...มุกเสียใจด้วยนะ...เสียใจจริงๆ” มุกรินวิ่งเข้ามาหา คิมหันต์เพียงแต่พยักหน้า “มีอะไรให้มุกช่วยบ้างไหม”

“ตอนนี้ยัง...นอกจากมุกจะบอกได้ว่าใครคือคนร้ายฆ่าพี่มล” มุกรินบอกว่าตำรวจบอกว่าอาจเป็นอุบัติเหตุ ลื่นล้ม คิมหันต์หันมองขวับถามว่า “มุกเชื่ออย่างนั้นหรือ”

“มุกไม่ได้บอกว่าเชื่อหรือไม่เชื่อ แค่เล่าให้ฟังว่าเป็นหนึ่งในข้อสันนิษฐานของตำรวจ”

“มุกน่ะรู้เท่าๆกับผมนะว่าใครเป็นคนทำ” คิมหันต์จ้องหน้ามุกรินด้วยสายตาที่ดุดันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจนมุกรินอึ้ง “ขอตัวก่อนนะมุก ผมต้องไปจัดการเรื่องศพพี่มลก่อน”

แต่ก่อนออกไปเขาตะโกนสั่งคนใช้ “อย่าให้ใครเข้าไปในบ้านเป็นอันขาด แม้แต่คู่หมั้นฉันก็ห้ามเข้า” แล้วเดินไปเลย มุกรินยืนอึ้ง หน้าเสีย
ปรารภลงจากรถได้ยินพอดี

ooooooo

พักตราไปหาอรรถที่สนามกอล์ฟถามว่ารู้เรื่องเจ๊มลหรือยัง

“อืมมม...ไม่น่าเชื่อ เมื่อวันงานยังคุยกันออกรสอยู่เลย พ่อว่าจะเป็นเจ้าภาพให้สักสามวัน กำลังให้เช็กว่าตั้งศพวัดไหน” พักตราถามว่าพ่อรู้ไหมว่าใครฆ่า ตนอยากรู้ว่าคิดเหมือนกันไหม และพ่อจะช่วยตามจับฆาตกรคนนี้ได้ไหม “เฮ้ย...ไม่ใช่หน้าที่พ่อ ตำรวจเขาสรุปแล้วเหรอว่าเป็นการฆาตกรรม หรืออุบัติเหตุ”

“ใครๆก็เชื่อว่าเป็นฆาตกรรมทั้งนั้น และเดาไปถึงตัวฆาตกรด้วยซ้ำ นายธาดาพี่ชายยายมุกไงพ่อ ผัวฆ่าเมียตัวเอง”

อรรถเตือนพักตราว่าอย่าไปยุ่งดีกว่าให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ เป็นเรื่องของผู้เสียหายเขาเคลียร์กันเอง

“เราเห็นต่างกันแล้วค่ะพ่อ พักตร์เห็นว่าช่วงนี้แหละที่พักตร์ควรจะเข้าไปช่วยเหลือคิมโดยเร็ว” อรรถถามว่าทำไม “มันเป็นโอกาสที่พักตร์จะได้คนรักกลับมาไงคะพ่อ พ่อต้องช่วยพักตร์นะ ถ้าพักตร์ต้องการเส้นสายอะไรเป็นพิเศษ พักตร์จะรีบบอกพ่อเลย”

ooooooo

ธาดาถูกนำตัวไปสถานีตำรวจก็เป็นเวลาค่ำแล้ว เขาถูกตำรวจสอบปากคำทันที

ตำรวจถามว่าสามวันมานี้เขาไปไหน ธาดาบอกว่าไปฮ่องกง ไปสั่งของที่จะเอามาขายในร้านตามปกติ ตำรวจถามว่าระหว่างอยู่ฮ่องกงไม่ได้ติดต่อภรรยาเลยหรือ ธาดาจึงเล่าเหตุการณ์ในคืนนั้นให้ฟังว่า

ก่อนออกเดินทาง เราทะเลาะกันรุนแรง...มีการขว้างปาข้าวของ...ใช้กำลัง ลงไม้ลงมือกัน ตำรวจถามว่าบีบคอด้วยหรือเปล่า?

“ครับ ผมบีบคอเธอ...เพราะเธอเอาปืนมาจ่อหัวผม” ตำรวจถามว่าเธอยิงไหม “ห้านัด...เฉี่ยวผมไปนิดเดียว”

“ช่วยเล่าเหตุการณ์วันสุดท้ายที่คุณอยู่กับภรรยาให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ”

“วันนั้น เราไปงานเลี้ยงด้วยกัน เป็นงานของบริษัท Fast Track ที่น้องสาวผมทำงานอยู่...เรามีปากเสียงกันเล็กน้อยระหว่างขับรถกลับบ้าน...ผมพยายามจะทำให้บรรยากาศดีขึ้นด้วยการชวนน้องชายเขากับน้องสาวผมไปกินข้าวด้วยกันที่บ้าน...แต่สองคนนั้นปฏิเสธ เพราะพวกเขาจะไปฉลองครบรอบวันหมั้นกันตามลำพัง”

ตำรวจถามว่าเขากลับถึงบ้านกี่โมง ธาดาบอกว่า “น่าจะประมาณหกโมงเย็น”

ตำรวจขอให้ยืนยันเวลาที่แน่นอน ธาดาส่ายหน้าบอกว่าจวนจะมืดแล้ว ตอนนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน ร้านค้าข้างทางปิดร้านหมดแล้ว ท้องฟ้าครึ้มๆ ฝนกำลังเริ่มจะตก ตำรวจถามว่าตอนนั้นฝนตกหรือยัง

“ตกแล้วครับ...ตกหนักด้วย” ตำรวจคาดว่าคนแถวนั้นคงไม่ได้ยินเสียงทะเลาะกัน และจะไม่มีใครรู้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างใช่ไหม “ก็คงอย่างนั้นครับ”

“ดังนั้น เวลาที่คุณออกจากบ้านไป จะเป็นกี่โมงแน่ก็คงไม่มีใครยืนยันได้”

ธาดาบอกว่ามุกริน น้องสาวตนยืนยันได้ ตำรวจจึงไปที่วัด...

มุกรินอยู่ที่วัดพยายามที่จะช่วยเหลือคิมหันต์จัดงานศพ แต่ถูกเขาเย็นชา หมางเมินอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อมุกรินจะเข้าไปช่วยเองก็ถูกคิมหันต์ห้าม “ไม่ต้องมุก...ผมทำเอง”

ตำรวจมาสอบถามมุกรินตามที่ธาดาอ้างเธอว่า คืนนั้นเขาไปถึงบ้านเธอกี่โมง มุกรินบอกว่าจำไม่ได้ รู้แต่ว่าพี่ใหญ่มารออยู่นานแล้ว ตำรวจถามว่าเธอเพิ่งกลับจากไปฉลองครบรอบวันหมั้นกับคิมหันต์ที่พัทยาใช่ไหม คาดว่าน่าจะกลับมาเกือบเช้า มุกรินบอกว่ายังไม่เช้าเพราะคิมหันต์ต้องไปทำงานต่อที่เขาใหญ่ แต่พอมาถึงบ้านตนก็เห็นพี่ใหญ่มารออยู่นานแล้วจริงๆ

พอตำรวจซักว่ารู้ได้อย่างไรว่าเขามารอนานแล้ว มุกรินอึกอัก ขอคุยกับพี่ชายก่อนได้ไหม เธอจึงรู้ว่าธาดาอยู่กับตำรวจแล้ว เธอตกใจถามว่าพี่ใหญ่เป็นผู้ต้องหาแล้วหรือ?

“ตอนนี้อยู่ในขั้นที่เรียกว่าผู้ต้องสงสัย...เรายังไม่ได้แจ้งข้อหาครับ”

ทันใดนั้นเสียงคิมหันต์ก็โวยวายมาจากในศาลา

“ออกไปนะไอ้เลว ไปให้พ้น ถ้าเหยียบเข้ามาบนศาลานี้มีเรื่องแน่”

มุกรินกับตำรวจหันมอง เห็นธาดายืนโต้เถียงกับคิมหันต์อยู่ที่บันไดศาลา ธาดาถามว่าทำไมตนจะมาเคารพศพเมียตัวเองไม่ได้! คิมหันต์ด่าว่าเพราะเขาชั่ว ฆ่าพี่สาวตนแล้วยังจะคิดมากราบไหว้ขออโหสิอีกงั้นหรือ! ธาดาตวาดให้พูดดีๆ ไม่อย่างนั้นตนฟ้องหมิ่นประมาทแน่

คิมหันต์ท้าให้ฟ้องเลย ตนด่าไอ้คนที่เป็นฆาตกรไม่ได้ก็ให้มันรู้ไป ธาดาตะโกนว่าตนไม่ใช่ฆาตกร

“มึงนั่นแหละฆาตกร!” คิมหันต์ตะโกนดังยิ่งกว่า

มุกรินเดินเข้าไปหาธาดา พักตราก็เดินเข้าไปเกาะแขนคิมหันต์อย่างใกล้ชิดทันที มุกรินมองท่าทีของพักตรานิ่งๆ

ชุมสายเข้าไปหว่านล้อมคิมหันต์ให้ใจเย็นๆ ก็ถูกคิมหันต์เอ็ดว่าไม่ต้องยุ่ง คอยว่าความให้ตนอย่างเดียวพอ

คิมหันต์กับธาดาทะเลาะด่าทอจนชกต่อยกัน ตำรวจต้องเข้าแยก พักตรากับมุกรินยืนอยู่กับคู่กรณีคนละฝ่ายอย่างชัดเจน พักตราเกาะแขนคิมหันต์แจ บอกมุกรินให้พาพี่ชายเธอกลับไปก่อน ตนจะดูแลคิมหันต์เอง

ธาดายอมกลับบอกว่าวันหลังค่อยมาไหว้ศพ

วิมลรัตน์ก็ได้ ถูกคิมหันต์ตวาดว่าไม่มีวันหลัง ไม่ว่าวันไหนเขาก็ไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องแม้แต่โลงศพพี่สาวตน

“มึงจำไว้นะไอ้คิม” ธาดาชี้หน้าอาฆาต

“กูไม่มีวันลืมอยู่แล้ว...ไอ้ชั่ว”

ก่อนออกไป ธาดาประกาศแก่ทุกคนบนศาลาว่า “ผมไม่ใช่ฆาตกร ผมไม่ได้เป็นคนฆ่าวิมลรัตน์...มันเป็นอุบัติเหตุครับ” แล้วเดินไป มุกรินบอกคิมหันต์ว่าตนกลับก่อนนะ คิมหันต์นิ่ง แต่พอเธอเดินไป เขาเรียกไว้

“มุก...ถามจริงๆเหอะ มุกเชื่อพี่ชายมุกเหรอ หรือจะเชื่อความจริงที่ทุกคนก็รู้อยู่”

มุกรินอึ้ง ไม่รู้จะตอบคำถามนี้อย่างไร

ooooooo

พาธาดากลับมาที่บ้านแล้ว มุกรินเอากาแฟมาให้ เห็นธาดานั่งเหม่อลอย พอถามเขาบอกว่า

“พี่ใจลอยน่ะ ภาพวิมลรัตน์แว้บเข้ามาในหัวพี่ตลอดเวลา...น่าสงสารจัง”

มุกรินถามว่าตำรวจสอบปากคำเขามากไหม ธาดาบอกว่ามาก เธอถามว่าแล้วเขาทำอย่างที่ตำรวจสงสัยหรือเปล่า ธาดาฉุน บอกว่าวิมลรัตน์เป็นเมียตนแล้วตนจะฆ่าได้อย่างไร มุกรินตอบอย่างสับสนว่า “มุกไม่รู้”

“มุกต้องรู้สิ มุกเป็นน้องสาวพี่นะ มุกต้องเชื่อพี่ ต้องเป็นพยานให้พี่” มุกรินย้ำว่าเฉพาะที่ตนรู้ที่ตนเห็นนะ “เท่านั้นก็พอแล้ว แค่มุกเล่าเรื่องราวคืนนั้นให้ตำรวจฟังเขาก็เอาผิดพี่ไม่ได้แล้ว”

“เรื่องราวคืนนั้น” ที่ธาดาอ้างถึงคือ...

คืนนั้นฝนตกหนัก เมื่อมุกรินกลับถึงบ้าน ธาดาในสภาพเปียกปอนบอกเธออย่างตระหนกว่าให้ช่วยพี่ด้วย พี่ถูกวิมลรัตน์ยิงหลายนัด

มุกรินถามว่าวิมลรัตน์ยิงเขาเรื่องอะไร ธาดาบอกว่าตนจับได้ว่าเธอมีผู้ชายอื่น มุกรินตกใจถามว่าจริงหรือ?

“พี่ก็ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะทำอย่างนี้กับพี่ได้ พอพี่แย่งปืนจนหลุดจากมือเขาได้ พี่ก็รีบหนีมาที่นี่เลย”

มุกรินตั้งข้อสังเกตว่า แบบนี้ใครๆก็ต้องสงสัยว่าทำไมเขาถึงทิ้งวิมลรัตน์ไป ธาดาย้อนถามว่าจะให้ตนทำอย่างไร ย้ำว่า “ปืนนะมุก พี่โทร.กลับไปหาเขา เขาก็ยังด่าพี่ไม่หยุดเลย มุกก็เห็น”

มุกรินจำได้ว่าคืนนั้นธาดายืนพูดโทรศัพท์กับวิมลรัตน์ท่ามกลางเสียงฟ้าคำรามนอกบ้าน...

“ถ้าคุณยังไม่หยุดด่าผม เราก็คงพูดกันไม่รู้เรื่องนะมล ผมทำอะไรผิด...เป็นความผิดของผมเหรอที่ดันไปรู้เรื่องที่เป็นความลับของคุณ...ผมเป็นสามีคุณนะ ผมย่อมมีสิทธิ์ที่จะหึงหวงภรรยาผมซี่ คุณหยุดกินเหล้า หยุดด่าผมเสียทีได้ไหม...มล”

แล้วธาดาก็ส่งโทรศัพท์ให้เธอบอกว่า “เขาบอกว่าจะกินเหล้าให้เมาตายไปเลย มุกช่วยพูดกับเขาที พี่ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว” มุกรินจึงรับโทรศัพท์ไปคุย

“พี่มลคะ นี่มุกนะคะ พี่ใหญ่เขาเป็นห่วงพี่มลนะคะ...พี่มลใจเย็นๆก่อนเถอะค่ะ...พี่มลคะ...พี่มล...”

ธาดาแย่งโทรศัพท์จากมุกรินไปพูดต่อ “มล...ผมรู้นะว่าคุณฟังผมอยู่ หยุดกินเหล้า หยุดร้องไห้ อาบน้ำนอนเสีย ผมต้องไปสั่งของที่ฮ่องกงตอนเช้า กลับมาแล้วเราค่อยคุยกันนะ”

นึกถึงเหตุการณ์ขณะนั้นแล้ว มุกรินบอกว่าตนไม่ได้ยินเสียงพี่มลเลย นอกจากเสียงฝนตกกับเสียงเพลง ธาดาโพล่งว่า

“นั่นแหละ ปัญหาของพี่ ถ้าไม่มีใครเชื่อพี่เลย พี่ก็จบ...พี่รู้ว่ามุกลำบากใจ คิมหันต์มันเป็นคู่หมั้นมุก เอางี้นะ ถ้าพี่ไม่ถึงกับจนแต้มจริงๆ พี่จะไม่ดึงมุกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเลย พี่สัญญา”

ธาดากอดมุกรินไว้ด้วยความรัก เธอถามว่า “พี่ใหญ่เข้าใจมุกใช่ไหมคะ” ธาดาย้อนถามเหมือนวัดใจกันว่า

“มุกก็เชื่อใจพี่เหมือนกันใช่ไหมล่ะ”

ooooooo

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 1 วันที่ 26 ส.ค. 58

ละครรอยรักแรงแค้น บทประพันธ์โดย ชลาลัย
ละครรอยรักแรงแค้น บทโทรทัศน์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น กำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น ผลิตโดย บริษัท สามัญการละคร จำกัด
ละครรอยรักแรงแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น.
ติดตามชม ละครรอยรักแรงแค้น ได้ทางทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ