อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 5 วันที่ 9 ม.ค. 58

อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 5 วันที่ 9 ม.ค. 58

คำพูดศรัณย์ทำให้ทรงพลเริ่มกังวล แต่แล้วสองคนยุติการสนทนาเพราะอนันยชกลับเข้ามา...หลังจากศรัณย์กลับไปแล้ว ทรงพลถามอนันยชเรื่องไปดูที่ดินกับวาสนา ชายหนุ่มโกหกว่าไปสายนิดหน่อย ทำไมยายน้อยต้องโทร.ฟ้องคุณน้าด้วย

ทรงพลได้กลิ่นน้ำหอมผู้หญิงจากตัวอนันยช รู้ทันจึงเดินตามมาเตือนให้เพลาๆเรื่องผู้หญิง อนันยชชะงักกึกนึกว่าทรงพลรู้เรื่องที่เกิดขึ้นจากวาสนาแล้ว



“น้าเข้าใจ...ยังหนุ่มยังแน่นก็เป็นแบบนี้แหละ ยังไงก็ระวังตัวอย่าให้แม่ต่ายเห็นเข้าก็แล้วกัน”

ชายหนุ่มโล่งใจที่ตนเข้าใจผิด...รับปากทรงพลแข็งขันว่าจะไม่ให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก

บ่ายวันเดียวกัน สิตามาพบศักดิ์สิทธิ์ที่โรงแรม ทำเป็นหวังดีให้เขาเตรียมหานักร้องคนใหม่ เพราะนักร้องคนเดิมไปยุ่งกับทิวัตถ์ ระวังศุภารมย์ซึ่งเข้มงวดเรื่องผู้หญิงที่มาติดพันทิวัตถ์จะมาเล่นงานหล่อนจนอยู่ไม่ได้

“อ๋อ ถ้าเรื่องนั้นผมรู้ดีครับ เพราะขนาดเธอชาติตระกูลดีแต่ดันทำตัวแย่ น้าต่ายยังไม่ให้ไอ้วินกลับไปคบกับเธอเลย”

“แก! นี่แกว่าฉันเหรอ”

“เปล่านะ ฉันแค่พูดตามความจริง แล้วเรื่องคุณลิน... เธอก็ไม่ต้องห่วงว่าน้าต่ายจะจัดการอะไร เพราะน้าต่ายเพิ่งให้คุณลินไปสอนร้องเพลงให้อยู่เลย แล้วท่าทางน้าต่ายจะชอบคุณลินมากด้วย เพราะวันนี้ถึงกับลงทุนมาหาคุณลินด้วยตัวเองเลยนะ”

“อะไรนะ!! ไม่จริง...”

“ไม่เชื่อก็ลองไปถามไอ้วินดูเองแล้วกัน...ขอตัวก่อนนะ” ศักดิ์สิทธิ์เดินหนีด้วยความสะใจ ทิ้งให้สิตายืนโมโหจนตัวสั่น ก่อนจะโทร.หาใครบางคนบอกว่าตนมีงานให้ทำ

ooooooo

ศุภารมย์กลับมาเล่าให้ทรงพลฟังเรื่องลิลินเป็นนักร้องที่ผับซิลเวอร์โคฟของศักดิ์สิทธิ์ และรู้จักบุญช่วยเพราะเธอเป็นเพื่อนกับหลานชายของเขา ท่าทางเธอกับทิวัตถ์น่าจะมีอะไรบางอย่างที่ตนไม่รู้ แต่คงไม่ใช่ชอบพอกัน ซึ่งอีกไม่นานตนต้องรู้ให้ได้...

คืนนี้ที่ผับของศักดิ์สิทธิ์มีลูกค้าหนาตา แต่ละโต๊ะสั่งอาหารมากินแล้วพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ายอดเยี่ยม ปกติเลยชื่นชมเชฟวิชนีไม่หยุดปาก ทำให้ศักดิ์สิทธิ์หงุดหงิดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ อาการหมั่นไส้กำเริบถึงกับจะเข้าไปป่วนเธอในครัว แต่กลายเป็นว่าต้องมาเป็นลูกมือเธอซะงั้น เพราะมีออเดอร์จากลูกค้ามากมายจนวิชนีคนเดียวทำไม่ทัน

ปรมัตถ์กลับมาที่โรงแรมอีกครั้งและได้พูดคุยกับลิลินหลังจากเธอร้องเพลงเสร็จ ลิลินให้หนังสือเล่มหนึ่งที่ปรมัตถ์อยากได้มานาน ขณะที่ปรมัตถ์ก็มีแหวนอยากจะมอบให้เธอ แต่เธอรู้ทันรีบพูดดักคอเสียก่อนว่า

“ไม่ต้องหรอกมัต มัตทำเพื่อลินมามาก...ไม่เอาสิ อย่าทำหน้าซึ้งอย่างนั้น คิดซะว่าหนังสือเล่มนี้เพื่อนให้เพื่อนก็แล้วกัน”

ปรมัตถ์ชะงักหน้าเจื่อน ลิลินย้ำกับเขาว่าเป็นแค่เพื่อนอีกแล้ว

“เออนี่...วันนี้ตอนที่นั่งคุยกัน คุณต่ายแม่ของคุณวินเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง เพราะเธอถามลินว่ารู้จักลุงบุญช่วยไหม”

“แล้วลินบอกว่าไง”

“ถ้าลองเธอกล้าถามอย่างนี้ก็แสดงว่าเธอต้องรู้อะไรมา การโกหกไปมีแต่จะทำให้เธอยิ่งสงสัย”

“ถ้างั้นลินยิ่งต้องระวังตัว เพราะคนพวกนี้มีทั้งเงินและอำนาจที่จะทำอะไรก็ได้ ยิ่งเมืองเล็กๆอย่างนี้พวกนั้นสามารถซื้อทุกอย่างได้ แม้แต่คนที่ใช้กฎหมาย”

“ไม่ต้องห่วงนะมัต ถ้าพวกนั้นจะใช้กฎหมายเพื่อฆ่าลิน ลินจะใช้ความยุติธรรมสู้กับพวกนั้นเอง” ลิลินแววตาเข้มแข็ง ปรมัตถ์มองเธอด้วยความเป็นห่วง

หลังจากปรมัตถ์กลับไป ลิลินเข้าห้องพักนึกทบทวนคำพูดของเขาที่ว่าคนที่มีทั้งเงินและอำนาจทำอะไรก็ได้ แม้แต่ซื้อคนที่ใช้กฎหมาย...เธอเอะใจลุกไปหยิบแฟ้มคดีของปองภพที่ปรมัตถ์หามาได้ เห็นชื่อร้อยตำรวจโทศัลย์ พันสูร เป็นเจ้าของคดี เช้าขึ้นจึงมุ่งหน้าไปสถานีตำรวจ แล้วเจอวิทยาด้วยความบังเอิญ เธอโกหกเขาว่ามาแจ้งความเพราะทำกระเป๋าสตางค์หาย ข้างในมีเอกสารทางราชการ

วิทยามาฟังผลชันสูตรศพบุญช่วย ปรากฏว่าศัลย์เป็นเจ้าของคดีบอกว่าเขาจมน้ำตาย แต่วิทยาสงสัยว่าลุงของตนจะถูกฆาตกรรม ศัลย์ชะงัก คิดย้อนเหตุการณ์คืนนั้นที่ตนจับบุญช่วยกดน้ำที่ท่าวัด...แล้วถามวิทยาด้วยน้ำเสียงปกติว่า ทำไมถึงคิดอย่างนั้น

“พอดีผมได้ยินชาวบ้านคุยกันน่ะครับ”

“ตกลงคุณจะเชื่อตาสีตาสาหรือจะเชื่อตำรวจ ผลการชันสูตรออกมาเป็นอย่างนี้ แต่ถ้าคุณไม่เชื่อก็ลองโทร.ไปถามนิติเวชดูเองก็ได้”

วิทยานิ่งไป ศัลย์มองชายหนุ่มตรงหน้าเพื่อสังเกตท่าทีอย่างไม่วางตา...เวลาเดียวกันนั้น ลิลินซึ่งแยกจากวิทยาเดินเข้าไปถึงห้องทำงานของศัลย์ที่มีป้ายชื่อและตำแหน่งติดหน้าห้อง เธอแอบเข้าไปหยิบรูปถ่ายของเขากับทรงพลและศุภารมย์มาพิศดูด้วยความสงสัย พลันได้ยินเสียงคนทักทายกันดังแว่ว จึงรีบวางรูปนั้นแล้วหลบออกมาอย่างรวดเร็ว

ลิลินกับวิทยาเจอกันอีกครั้งหน้าสถานีตำรวจ หญิงสาวถามถึงผลชันสูตรศพบุญช่วย พอได้ยินว่าจมน้ำตายเองก็นิ่งคิดสงสัย เพราะรู้แก่ใจว่าคืนนั้นมีคนไปทำร้ายบุญช่วย แต่เธอไม่พูดออกมาให้วิทยารู้ นั่งรถของเขาไปกินข้าวด้วยกันตามที่รับปากไว้ก่อนหน้านี้

ooooooo

ทรงพลกับศรัณย์วางแผนแยบยลจนทิวัตถ์ยอมรับการรักษาอาการปวดหัวด้วยการอ้างว่าศุภารมย์ไม่สบายใจจนป่วยไข้เพราะเป็นห่วงเขา

แต่ความจริงทั้งสามคนรู้กัน ทรงพลกับศุภารมย์ต้องการให้จิตแพทย์อย่างศรัณย์ตอกย้ำความทรงจำให้ทิวัตถ์ปักใจอยู่เสมอว่าปองภพเป็นคนฆ่าศุภิสราแม่ของเขา ซึ่งแต่ละครั้งที่ทำการรักษาศรัณย์จะถ่ายวีดิโอเก็บไว้ด้วย

วาสนายังแค้นใจอนันยชไม่หายแต่ไม่รู้จะทำยังไงได้...ได้แต่ซื้อยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมาให้วรรณิตกินป้องกันท้องไส้ขึ้นมา เสร็จแล้วรีบเดินหน้าจะพาเธอไปนอกบ้านแต่อนันยชโผล่เข้ามาเสียก่อน

“มาทำไม” วาสนาถามเสียงแข็ง อนันยชเล่นลิ้นว่าทักทายตนดีขนาดนี้แสดงว่าคงทำใจเรื่องตนกับวรรณิตได้แล้วใช่ไหม “ใช่...ฉันถือซะว่าให้ทานหมามันไปแล้วกัน”

อนันยชสะอึกอึ้งไปอึดใจแล้วท้าทายว่า “ยายจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ แต่ถ้ายายยังคิดจะเอาณิตไปให้เจ้าวิน...หมาตัวนี้ก็จะคาบข่าวไปบอกกับแม่ต่าย แล้ววันนั้นผมจะรอดูว่าใครจะเสียกว่ากัน”

“พ่อวัน!!! ยังไงฉันก็ขอให้พ่อวันเลิกยุ่งกับแม่ณิตอย่างเด็ดขาด”

“ไม่...ผมจะไม่ปล่อยคุณณิตไปให้เจ้าวินแน่ ผมจะรับผิดชอบคุณณิตเอง”

“ลูกนอกไส้อย่างพ่อวันจะเอาอะไรมารับผิดชอบยัยณิต หัวเด็ดตีนขาดยังไงฉันก็ไม่ยอมยกยัยณิตให้คนอื่นนอกจากเจ้าวิน”

“ถ้าอย่างนั้นยายกับผมคงต้องเห็นดีกัน”

อนันยชข่มขู่ทิ้งท้ายหน้าถมึงทึงแล้วถอยกลับออกไป วาสนาแค้นใจคำรามลั่นว่า

“มันชักจะเกินไปแล้วนะไอ้วัน...แกรู้จักอีแก่คนนี้น้อยไปซะแล้ว”

นพกรเดินสวนอนันยชตรงหน้าบ้าน มองตามอย่างสงสัยก่อนจะเข้ามาถามวาสนาว่าเรียกตนมาทำไม

“แกอยากได้เงินมั้ย” คำถามของวาสนาและแววตาคมกริบด้วยความแค้นเล่นเอานพกรกับวรรณิตมองหน้ากันอึ้งๆ

วิทยาพาลิลินไปกินข้าวร้านริมทาง สองคนพูดคุยกันอย่างเป็นมิตร แต่เจ้าของร้านดันคิดว่าเขาและเธอเป็นสามีภรรยา ก็เลยหัวเราะขำขันไปด้วยกันทั้งหมด

ผ่านไปสักครู่ ลิลินโกหกวิทยาว่าตนลืมโทรศัพท์ไว้ในรถและไม่ยอมให้เขาไปหยิบให้ ขอกุญแจรถแล้วรีบไปด้วยตัวเอง...ลิลินอยากดูเอกสารผลชันสูตรศพบุญช่วย แล้วเธอก็ได้เห็นชื่อและนามสกุลตำรวจเจ้าของคดีคือศัลย์นั่นเอง เธอรีบโทร.เล่าให้ปรมัตถ์ฟังว่าศัลย์ทำคดีของบุญช่วยและยังเป็นคนเดียวกับที่ทำคดีของพ่อตน

“ไม่แปลกหรอกลิน มันสามารถเป็นไปได้”

“แต่ผลการชันสูตรของลุงช่วยบอกว่าเป็นการจมน้ำตายธรรมดา ทั้งๆที่คืนนั้นลินเห็นอยู่ว่ามีคนพยายามฆ่าลุงช่วย...ถ้าเป็นอย่างนี้มัตยังว่าไม่แปลกอีกหรือเปล่า”

“ลินกำลังคิดว่าตำรวจคนนั้นเปลี่ยนผลชันสูตรเหรอ”

“มัตเป็นคนบอกเองว่าคนที่เราต่อสู้ด้วยมีอำนาจพอที่จะทำอย่างนั้นนี่”

“ถ้าอย่างนั้นตำรวจที่ชื่อศัลย์อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของลุงบุญช่วย”

ลิลินนิ่งไปเหมือนเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

ooooooo

ยายเฟื่องยังอยู่ในช่วงพักผ่อน หลังจากเมื่อหลายวันก่อนเป็นลมอาการน่าเป็นห่วง วันนี้ศักดิ์สิทธิ์มาดูแลแกที่ห้องพักในโรงแรม วิชนีจะเอาอาหารมาให้ยายเฟื่อง แอบดูอยู่หน้าห้องแล้วเผลออมยิ้มกับความมีน้ำใจของเขา

วิชนีไม่อยากให้เขารู้เห็น ค่อยๆถอยออกมาแต่แม่บ้านคนหนึ่งทักเธอเสียงดัง ก็เลยเลี่ยงไม่ได้...พอยายเฟื่องเห็นเธอก็ร้องไห้ออกมา บอกว่ายายเหงา เห็นเธอแล้วยิ่งอยากกลับไปทำงานที่ครัว หญิงสาวสงสารหว่านล้อมจนแกสงบลง แล้วถามว่าตอนนี้ยายอยากทำอะไร

“ยายอยากดูละครเพลง”

“ละครเพลง!” วิชนีกับศักดิ์สิทธิ์ประสานเสียงด้วยความตกใจ

จากนั้นไม่นานละครเพลงระหว่างเขาและเธอก็เริ่มขึ้น โดยมียายเฟื่องเฝ้าดูและคอยกำกับให้ทั้งคู่ทำอย่างโน้นอย่างนี้ แล้วก็หัวเราะชอบใจ หนุ่มสาวเห็นแกมีความสุขก็พลอยยิ้มได้

เสียงมือถือศักดิ์สิทธิ์ดังขึ้น ชายหนุ่มดูเบอร์ที่โชว์แล้วขอตัวเดินออกไปด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน ยายเฟื่องเอ็นดูคุณหนูของตน บอกวิชนีว่าเขาเป็นคนดี ยายฝากฝังเขาด้วย วิชนีบ่นงึมงำไม่เชื่อแต่ก็รับปากเพื่อความสบายใจของแก

ศักดิ์สิทธิ์รับสายจากนักชิมที่เคยจ้างไปป่วนวิชนีที่ร้านอาหารจนเธอโดนผู้จัดการไล่ออก วิชนีตามมาได้ยินเต็มสองหู ความโกรธพลุ่งพล่านจนระงับไม่อยู่ เดินเข้าไปด่าศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่ไว้หน้า “ฉันคิดไว้แล้วไม่มีผิด นายมันเลว...เลวกว่าที่ฉันคิดซะอีก”

ชายหนุ่มปฏิเสธไม่ออก หน้าซีดเป็นไก่ต้ม...วิชนีโกรธจัดพรวดพราดกลับห้องพัก เก็บเสื้อผ้าข้าวของใส่กระเป๋าแล้วเขียนโน้ตบอกลาลิลินไว้ แต่ไม่ทันจะไปก็ได้ยินเสียงเคาะห้อง นึกว่าศักดิ์สิทธิ์ตามมาหาเรื่อง กระชากประตูเปิดด้วยความโมโห แล้วต้องตกใจสุดขีดเมื่อเห็นผู้มาเยือนยืนหน้าเหี้ยม!

อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 5 วันที่ 9 ม.ค. 58

ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง บทโทรทัศน์ : อภิวัฒน์ เล่าสกุล
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง กำกับการแสดง : ตรัยยุทธ กิ่งภากรณ์
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ผลิต : บริษัท ปรากฏการณ์ดี จำกัด
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ควบคุมการผลิต : ชวลิต พงศ์ไชยยง
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทาง ช่อง7 และ 7HD
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง เริ้มออกอากาศตอนแรกในวันเสาร์ที่ 3 มกราคม 2558
ที่มา ไทยรัฐ